อุดรธานี 5 ก.พ. – รถกระบะชนรถหน่วยกู้ชีพชนสนั่นกลางแยกสามพร้าว จ.อุดรธานี บาดเจ็บระนาว 14 คน คนขับรถกู้ชีพยอมรับฝ่าไฟแดงพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน โดยเห็นว่ารถที่อยู่บริเวณแยกไฟแดงจอดให้แล้ว ขณะที่คนขับกระบะเผยไม่เห็นรถกู้ชีพที่วิ่งมา
เมื่อวานนี้เวลา 18.30 น. เกิดเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถกู้ชีพโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ บริเวณกลางสี่แยกไฟแดงบ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงแจ้งให้ตำรวจจราจร พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิส่งเสริมธรรมรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดง พบรถตู้สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า เป็นรถกู้ชีพของโรงพยาบาลอำเภอพิบูลรักษ์พังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บที่มากับรถกู้ชีพจำนวน 2 คน หนึ่งในนั้นมีหญิงวัย 35 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีญาติมาด้วย 1 คนในรถกู้ชีพ ซึ่งเตรียมนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ส่วนรถคู่กรณีเป็นกระบะโตโยต้าสีขาว มีผู้บาดเจ็บ 14 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 4 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ลำเรียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
จากการสอบสวนนายฉลาด เม้าราศี อายุ 36 ปี คนขับรถกู้ชีพโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ให้การว่า ตนได้พาผู้ป่วยเป็นหญิงอายุ 43 ปี มาจากโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ พร้อมด้วยญาตินั่งมาด้วย รวมกับตนเป็น 3 คน เพื่อนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พอมาถึงบริเวณใกล้กลางสี่แยกไฟแดง ตนเปิดไฟสัญญาณขอทางมาตลอดเส้นทาง แต่ว่าไม่ได้เปิดเสียง จนมีรถที่อยู่เลนด้านขวามือจอดหลบให้ทั้งหมดแล้ว จึงขับรถมาถึงสี่แยกไฟแดง และเป็นจังหวะสัญญาณไฟแดง ซึ่งยอมรับว่าฝ่าไฟแดงพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน โดยรถที่อยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงได้จอดให้แล้ว จึงค่อยขยับรถขึ้นเพื่อผ่านไป แต่มีรถกระบะคู่กรณีวิ่งมาด้วยความเร็ว ชนเข้าด้านข้างจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้านนายสัญญา คนขำ อายุ 47 ปี คนขับรถยนต์กระบะ ให้การว่า ขับรถพาคนงานมาจากเส้นถนนรอบเมืองจากสี่แยกบ้านหนองใส มุ่งหน้าไปสี่แยกไฟแดงบายพาสอุดรธานี-หนองคาย เพื่อกลับที่บ้านพัก มาถึงจุดเกิดเหตุเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่ไม่เห็นรถกู้ชีพที่เปิดไฟสัญญาณมาเพื่อขอทางไปส่งคนป่วย จึงเบรกไม่ทันชนอย่างจัง
ด้านตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกไฟแดง เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย เพื่อที่จะได้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย