กรุงเทพฯ 29ม.ค.- “หลานสาวนายตำรวจใหญ่” ร้องศูนย์ศปอส.ตร. ถูกหลอกขายเสื้อผ้าทางเฟซบุ๊ก อีกรายถูกหลอกขายเครื่องปั่นน้ำแข็งกระเป๋าเดินทางลายลิขสิทธิ์ รวมสองกรณีผู้เสียหายรวม กว่า 700 ราย ความเสียหายกว่า700,000บาท
นางสาวณิชาภา เมฆหมอก อายุ 39 ปี แจ้งกับนักข่าวเป็นหลานสาวพลตำรวจโทมนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำหลักฐานการติดต่อสั่งซื้อสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากต่างประเทศ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนางสาวบูชิตา โพธิ์ทอง ที่หลอกขายสินค้าแต่ไม่ยอมส่ง และตัดการติดต่อหลบหนีไป ทั้งนี้นางสาวณิชาภา ยังแจ้งกับนักข่าวเป็นหลานสาวพลตำรวจโทมนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย
นางสาวณิชาภา ยอมรับว่า สินค้าที่สั่งซื้อมีราคาแค่ 950 บาท แต่พบว่าพฤติกรรมของผู้ต้องหามีการหลอกลวงเหยื่อผู้เสียหายนับ 100 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ตามต่างจังหวัด โดยวิธีการก็คล้ายๆ กับคดีอื่นๆ คือเมื่อสั่งซื้อสินค้าไปแล้ว จะไม่ได้รับของ เมื่อทวงถามก็จะบ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดขัดขั้นตอนการส่ง และเงียบหาย ขาดการติดต่อไป ก่อนจะไปเปิดเพจเฟซบุ๊กอื่นหลอกลวงผู้เสียหายต่อ ส่วนเหตุที่หลงเชื่อเนื่องจากเห็นว่ามีผู้กดติดตามหลายพันคน มีการแสดงบัตรประชาชนและเลขที่บัญชีทำให้ตายใจว่าจะไม่ฉ้อโกง ประกอบกับมีการลดราคา 40-50% จึงตัดสินใจสั่งซื้อ ซึ่งทันทีที่ผู้ต้องหาทราบว่าตนได้แจ้งความ ก็จะรีบส่งเงินคืนให้ แต่เนื่องจากตำรวจดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงไม่สามารถยอมความได้ ส่วนที่ตนมาร้องทุกข์กับตำรวจ ศปอส. เพื่อต้องการให้ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัว เพื่อไม่ให้ไปกระทำผิดกับคนอื่นอีก
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ถึงเดือนมกราคมปีนี้ มีผู้เสียหาย 433 คน รวมความเสียหายกว่า 335,000 บาท ซึ่งหลังพยายามติดตามทวงเงินคืน ก็เริ่มทยอยคืนแล้ว 120 คน นอกจากนี้พบว่ายังมีการแจ้งความผู้ต้องหารายนี้ไว้อย่างน้อย 4 ท้องที่ ได้แก่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ สระบุรี สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร บางคดีอยู่ในการพิจารณาของอัยการแล้ว
อีกรายผู้เสียหายกรณีที่ชำระค่าสินค้าแล้วไม่ได้รับสินค้าภายหลังสั่งกระเป๋าเดินทางลายลิขสิทธิ์และเครื่องปั่นน้ำแข็งจากทางเพจ “ Good Idea Online “ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)
นางสาวกนกกาฐจน์ ยศชัยพงศ์ อายุ 25 ปี ผู้เสียหายเล่าว่าได้สั่งซื้อเครื่องปั่นน้ำแข็ง จากเพจดังกล่าว ราคา 790 บาท ไปเมื่อช่วงปลายปี 2561 แต่ไม่ได้รับสินค้า จึงได้ทักข้อความทางเฟสบุ๊คไปเพื่อสอบถามเรื่องสินค้า ก็ถูกบล็อกไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนนางสาวภัชชา วิเศษปั้น อายุ 32 ปี ผู้เสียหายอีกคนเล่าว่า ตนเองได้เห็นสินค้าและการโฆษณารีวิวการส่งสินค้าทางเฟสบุ๊คและตัวแม่ค้าก็มีการระบุชื่อบัญชีและให้ดูบัตรประชาชนที่ชื่อ “นางสาวนุศรา มะลิทอง” ซึ่งดูน่าเชื่อถือดี
ตนเองจึงได้สั่งกระเป๋าเดินทางลายลิขสิทธิ์ ราคา 2,200 บาทไป แต่เมื่อโอนเงินตนเองยังไม่ได้รับสินค้า จึงสอบถามไปก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าติดปัญหาในการจัดส่งมาจากประเทศจีน เมื่อตนเองสอบถามหลายๆครั้งจึงถูกบล็อกและติดต่อไม่ได้อีกเลย
ภายหลังการถูกบล็อกและติดต่อทางเพจและตัวแม่ค้าไม่ได้ ตนเองจึงได้สอบถามและรวบรวมผู้เสียหายที่มีกว่า 200 คน ซึ่งทั้งหมดก็ไม่มีใครได้รับสินค้า และได้ชำระเงินไปแล้วทั้งการโอนเงินและการเก็บเงินปลายทาง จึงได้รวบรวมหลักฐานการพูดคุยทางข้อความแชทและหลักฐานการโอนเงินมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งกรณีนี้มีผู้เสียหายกว่า200ราย และมูลค่าความเสียหายรวมกว่า300,000บาท.-สำนักข่าวไทย