กทม. 22 ม.ค.- เจ้าหน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังจับกุมแก๊งค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ยึดของกลางจำนวนมาก เป็นเล็บหมีขอนับพันชิ้น และกะโหลกเสือโคร่งอีก 2 หัว
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยเป็นการสนธิกำลังร่วมระหว่างตำรวจหน่วยต่างๆ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคุมตัวนายกะต่าย สีสุวัน ชาว สปป ลาว, นายวราพงศ์ พันธุ์แจ่ม และนายเหงียน วัน เฮิบ ชาวเวียดนาม พร้อมซากหมีขอจำนวน 2,958 เล็บ เทียบเป็นจำนวนหมีขอประมาณ 146 ตัว นอกจากนี้ยังพบกะโหลกเสือโคร่งอีก 2 หัว
การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการขยายผลจับกุมเครือข่ายลักลอบค้างาช้างแปรรูปรายใหญ่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมปีก่อนที่ด่านศุลกากรนครพนม กระทั่งการข่าวพบว่าจะมีการลักลอบขนซากสัตว์ออกนอกประเทศอีกครั้ง ด้วยวิธีนำกระเป๋าบรรจุซากสัตว์ขึ้นรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศจึงได้ประสานกับตำรวจทางหลวงวังน้อยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกตรวจสอบรถเป้าหมาย พบกระเป๋าวางอยู่ในช่องเก็บของด้านหน้าคนขับ สอบถามนายกะต่าย รับว่าเป็นผู้นำกระเป๋าใบดังกล่าวมา มีชาวเวียดนามชื่อมิ้นเป็นผู้ประสานงานในการรับฝากและต้องนำไปส่งให้ชาว สปป ลาว อีก 1 คน ซึ่งรอรับอยู่ที่เมืองปากเซ สปป ลาว ภายในกระเป๋าพบซากสัตว์จำนวนดังกล่าวถูกบรรจุไว้อยู่ในถุงพลาสติกพันด้วยเทปกาวจำนวน 4 ห่อ และถุงพลาสติกใสใบใหญ่อีก 1 ถุง มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลไปตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าวและสามารถจับกุมนายวราพงศ์ และนายเหงียน พร้อมทั้งขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านนายธรรมนูญ คงดี นายทุนที่รวบรวมซากสัตว์ป่าไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับไว้แล้ว จากการสืบสวนทราบว่าขบวนการดังกล่าวมีการลักลอบส่งซากสัตว์ป่าออกนอกประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง เป็นขบวนการที่มีเครือข่ายกว้างขวางมีการติดต่อซื้อขายสั่งกันทางออนไลน์เชื่อมโยงกันหลายจังหวัดในประเทศไทยและหลายประเทศ อาทิ สปป ลาว เวียดนาม จีน และยังเชื่อมโยงถึงขบวนการค้างาช้างที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อใช้ พ.ร.บ.การฟอกเงิน มาอายัดทรัพย์ของนายทุนทั้งหมดต่อไป.-สำนักข่าวไทย