อย.18 ม.ค.-อย.จับมือลาซาด้า ร่วมทำงานเชิงรุก ป้องกันการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ฝ่าฝืนกฎหมายทางมาร์เก็ตเพลส เบื้องต้นสร้างโปรแกรมสแกนคำ 1เดือน สามารถสกัดผลิตภัณฑ์ที่น่าจะผิดกฎหมายออกไปได้ถึง 17,000 รายการ ก่อนขึ้นเว็บไซต์
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากปัญหาการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะทางสื่ออินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมา อย.ได้ดำเนินคดีโดยแจ้งระงับโฆษณาและเปรียบเทียบปรับผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้โพสต์ขายของ เจ้าของผลิตภัณฑ์ และ พรีเซ็นเตอร์ เป็นต้น โดยดำเนินการร่วมกับ กสทช.และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่หลายคดี แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นมาตรการเชิงรับ อย.จึงได้ประสาน บริษัท ลาซาด้า จำกัด เพื่อร่วมกันหารือและให้คำแนะนำการดำเนินกิจการการค้าออนไลน์เกี่ยวกับข้อกฎหมายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และแนวทางการเผยแพร่โฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางเว็บไซต์ที่ถูกต้อง ป้องกันการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ฝ่าฝืนกฎหมายทางมาร์เก็ตเพลส
เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้ลาซาด้าได้สร้างเครื่องมือคัดกรอง โปรแกรมสแกนคำ ถ้าพบถ้อยคำผิดกฎหมายหรือไม่อนุญาต โปรแกรมนี้จะสกัดกั้นไม่ขึ้นไปหน้าเว็บไซต์ของลาซาด้า ซึ่งภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถสกัดผลิตภัณฑ์สุขภาพที่น่าจะผิดกฎหมายออกไปได้ถึง 17,000 รายการ โดยอาศัยข้อมูลจากการเเจ้งเบาะแสจากเครือข่าย เช่น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) อาจารย์มหาวิทยาลัย การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการปิดกั้น(Block) คำหรือข้อความ ก่อนการเผยแพร่ การลงโทษผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ โดยหักคะแนนผู้ขายที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ซึ่งหากทำผิดบ่อยครั้ง จะถูกปิดกั้น (Block) และยกเลิกสัญญา และมีการให้ความรู้กับผู้ประกอบการร้านค้าก่อนที่จะเข้ามาเป็นผู้ขายในลาซาด้า เป็นต้น
เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า ในอนาคตอันใกล้ กำลังพัฒนาระบบรายงาน (Reporting system)ในรูปแบบช่องให้เลือก (Drop down list) ผู้บริโภคสามารถกดรายงาน (Report) ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ละเมิดกฎหมายได้ ขณะเดียวกันลาซาด้าจะต้องรายงานกรณีผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ละเมิดกฎหมายให้ อย.ทราบด้วย เพื่อจะได้ติดตามดำเนินการตามกฎหมาย และมีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลระหว่าง ลาซาด้า และอย. ในเรื่องฐานข้อมูลขออนุญาตผลิตภัณฑ์ และขออนุญาตโฆษณา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบการขายและการโฆษณาของผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ด้วย
ทั้งนี้ หากโมเดลนี้สมบูรณ์จะขยายไปยังมาร์เก็ตเพลสทุกแห่งต่อไป รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. และเครือข่ายประชาชน เช่น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีประสิทธิภาพต่อไป .-สำนักข่าวไทย