รัฐสภา 12ก.ย.-“วราวุธ” ชี้พม.จะทำงานเชิงรุกมากขึ้น ยันจะเป็นกำแพงให้ปชช.ได้พิงหลังยามเกิดปัญหา เตรียมมอบนโยบาย 19 ก.ย.นี้ ขอโทษประชาชนปมเบี้ยสนับสนุนเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีช้า เหตุรอยต่อครม.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนร่วมการประชุมร่วมรัฐสภา ว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวานนี้(11 ก.ย.) มีสมาชิกพูดถึงเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ คาดว่าในวันนี้จะมีประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งจะประมวลข้อสังเกตของสมาชิกอื่น ๆ และขอขอบคุณหลายฝ่ายที่ตั้งแต่แถลงนโยบายได้ติดต่อเข้ามา การทำงานของพม. ต่อจากนี้จะทำงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น สร้างความตระหนักรู้อีกหลายฝ่ายในสังคม
“ส่วนเรื่องเบี้ยของเด็กแรกเกิดที่เป็นปัญหา ต้องขอกราบอภัยประชาชนกว่า 2 ล้านราย ที่รอรับเบี้ยสนับสนุน 600 บาทต่อเดือน แต่ยังไม่ได้ เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านคณะมนตรี ทำให้ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณดังกล่าวได้ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่มีอำนาจนำวาระมาอนุมัติงบประมาณ พรุ่งนี้จะมีการประชุมครม. ผมได้ประสานกับสำนักเลขาธิการครม. สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง เพื่อที่จะทำให้เงินอยู่ในบัญชีของประชาชนภายในวันที่ 18 ก.ย.นี้” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวว่า ทุก ๆ เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ จะมีงบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งไม่ได้ให้ไม่ครบ แต่จำนวนของเด็กที่ได้รับการสนับสนุนในแต่ละเดือนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น สำนักงบประมาณจะให้เงินเป็นเลขกลม ๆ หากขาดเหลือเท่าไหร่ จะของบประมาณอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ตรงกับช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำให้เกิดความล่าช้า และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ส่วนการมอบนโยบายให้กระทรวงพม.ในสัปดาห์หน้า นายวราวุธ กล่าวว่า มีแนวทางมอบนโยบายให้ข้าราชการในกระทรวงวันอังคารที่ 19 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพม.มีภารกิจเยอะมาก ทั้งเรื่องเด็กและเยาวชน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ รวมถึงเคหะที่ดูแลเรื่องที่พักอาศัย ดังนั้น งานที่ผ่านมาเป็นงานที่เข้าถึงประชาชนทุกระดับ แต่บางครั้งต้องตระหนักถึงหน้าที่ของข้าราชการ เพราะประชาชนยังไม่รับรู้เท่าที่ควร
“เราจึงจะทำงานรุกให้มากขึ้น ทั้งการดูแลสวัสดิการประชาชน ให้ได้รับการรับรองในมิติต่าง ๆ การทำงานของพม.จะเป็นกำแพงให้พี่น้องประชาชน ได้พิงเวลาเจอปัญหา จะเป็นเกราะป้องกันให้ประชาชนในยามเจออันตราย ดังนั้น มิติของพม.ทั้งในไทยและทั่วโลกจะถูกทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น” นายวราวุธ กล่าว
ส่วนกรณีของหยก นายวราวุธ กล่าวว่า จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทั้งเรื่องการศึกษา และส่วนที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว โดยบริบทการทำงานของพม. คงไม่ก้าวล่วงในเรื่องการศึกษา แต่เรื่องของครอบครัว เราจะใช้สหวิชาชีพทุกแขนงดูแล ซึ่งไม่ได้เน้นการแก้ไขที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่ต้องป้องกันทั้งระบบ ไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก.-สำนักข่าวไทย