ตรัง 16 ม.ค.-ธนาคารกรุงไทย ชดใช้เงินให้หญิงที่ถูกหลานปลอมลายเซ็นเบิกเงินกว่า 8 หมื่นบาท พร้อมแจ้งความดำเนินคดีหลายสาวของเหยื่อ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารลายเซ็นเบิกถอนเงิน
จากกรณีที่นางอนุสา ไตรระเบียบ อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง พร้อมญาติพี่น้องรวม 4 คน ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่าเงินในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาห้วยยอด ที่ได้เก็บหอมรอมริบฝากไว้จะเอาไว้ใช้ในยามแก่ จำนวน 103,000 บาท ถูกนางสาวสายชล เกตุแก้ว อายุ 25 ปี หลานในไส้ที่ฝากให้ช่วยเก็บสมุดบัญชีเงินฝากไว้ แอบนำสมุดบัญชีเงินฝากเพียงเล่มเดียว และปลอมลายเซ็น โดยไม่ต้องใช้หลักฐานบัตรประชาชนยืนยันตัวตน ไปลักลอบถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมด 5 ครั้ง จำนวนเงินรวม 83,000 บาท จนเงินเกือบหมดบัญชี คงเหลือติดบัญชีอยู่เพียงจำนวน 20,739 บาทเท่านั้น และหลังจากเจ้าของบัญชีทราบเรื่องก็พยายามถามหาความรับผิดชอบจากธนาคาร แต่ได้รับการปฏิเสธ และไล่ให้เจ้าของบัญชีไปตกลงเอาเงินคืนจากหลานสาวเอาเอง เพราะในการเบิกมีลายเซ็นถูกต้อง และหากไม่ได้คืนก็ให้ไปแจ้งความเอาผิดกับนางสาวสายชลเอาเอง จนกระทั่งมีการร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวจนกลายเป็นข่าวตามมาก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ช่วงเย็นของวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา นางอนุสา ไตรระเบียบ และญาติพี่น้องได้รับการติดต่อจากทางธนาคารกรุงไทย สาขาห้วยยอด ว่าธนาคารได้โอนเงิน 83,000 บาท ที่ถูกหลานสาวแอบไปปลอมลายเซ็นเบิกถอนไปจากธนาคารพร้อมดอกเบี้ยคืนเข้าบัญชีให้แล้ว วันนี้จึงได้เดินทางไปติดต่อกับธนาคารอีกครั้ง พบว่าจำนวนเงินดังกล่าวที่ถูกเบิกถอนไปได้รับการชดใช้คืน พร้อมดอกเบี้ยเข้าบัญชีให้แล้วจริง ทำให้นางอนุสา และญาติพี่น้องดีใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทางตัวแทนธนาคารกรุงไทย สาขาห้วยยอด ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวสายชล เกตุแก้ว อายุ 25 ปี ชาวหมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารลายเซ็นเบิกถอนเงินแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย