จับ 1 ใน 7 โจ๋ฟันเพื่อนบ้านสาหัส

บุรีรัมย์ 15 ม.ค.-ชุดสืบ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จับกุมตัว 1 ใน 7 แก๊งวัยรุ่นโหด รุมทำร้ายร่างกายและใช้มีดกระหน่ำฟันชายเพื่อนบ้านวัย 40 ปี จนหูฉีกขาด ใบหน้าและลำคอเป็นแผลฉกรรจ์บาดเจ็บสาหัส ส่วนที่เหลือยังหลบหนี


ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มวัยรุ่น 7 คน ร่วมกันรุมทำร้ายร่างกาย และใช้มีดกระหน่ำฟันนายสมภพ สวนสวรรค์ อายุ 40 ปี ที่บริเวณสระน้ำบ้านบัวตารุ่ง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ม.ค.62 ที่ผ่านมา จนบาดเจ็บสาหัสใบหูฉีกขาด ใบหน้าและลำคอมีแผลฉกรรจ์ ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนางรอง เหตุแค่ไม่พอใจที่ผู้บาดเจ็บไปตบหัวน้องชายของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น จึงพากันมารุมทำร้าย


ล่าสุด พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร รอง ผู้กำกับการสืบสวน สภ.นางรอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบ นำหมายจับศาลจังหวัดนางรอง เข้าจับกุมตัวนายนพรัตน์ สุขใส หนึ่งในแก๊งวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุ พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.นางรอง เบื้องต้นนายนพรัตน์ ยังให้การวกวน โดยอ้างว่าวันเกิดเหตุอยู่ในเหตุการณ์กับวัยรุ่นอีก 6 คนจริง แต่ไม่ได้ลงมือก่อเหตุ พร้อมเล่าว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุฟันนายสมภพ ได้เดินเข้าไปสอบถามนายสมภพ ว่า “ตบหัวน้องกูทำไม” จากนั้นผู้ก่อเหตุและเพื่อนๆ ที่ไปด้วยก็ลงมือรุมทำร้ายและใช้มีดฟันนายสมภพจนบาดเจ็บสาหัส   ส่วนตัวเองพยายามเข้าไปห้ามไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะขัดแย้งกับคำให้การของผู้เสียหายและพยาน ที่ให้ข้อมูลว่านพรัตน์ เป็นคนล็อกตัวนายสมภพ เพื่อให้เพื่อนใช้มีดฟัน หลังก่อเหตุก็ต่างแยกย้ายกันหลบหนี

หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ก็ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมทั้งจะได้เร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่เหลือมาสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย 


 

ด้าน พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะวิวาทย์ระหว่างวัยรุ่นในหมู่บ้าน ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่ผู้บาดเจ็บไปตบหัวน้องชายของผู้ที่ลงมือใช้มีดฟัน  จึงได้พาเพื่อนในหมู่บ้านมารุมทำร้ายเพื่อหวังจะสั่งสอน ซึ่งเป็นการทำด้วยอารมณ์จนนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งหลังรับแจ้งเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุ จนสามารถจับกุมได้ 1 ราย ส่วนที่ยังหลบหนีก็อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี พร้อมกันนี้ยังได้ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ให้พาบุตรหลานเข้ามามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และต่อสู้คดีตามกระบวนการ แต่หากไม่มามอบตัวก็จะถูกออกหมายจับ ซึ่งผู้ปกครองก็รับปากหากติดต่อได้ก็จะพาบุตรหลานเข้ามามอบตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย-อีสานอากาศเย็นตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย โดยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน