ตาก 7 ม.ค. – เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง
ภาพล่าสุดของ “ซิงซิง” นักแสดงจีน ที่หายตัวไป ซึ่งอยู่ในความดูแลของตำรวจเมียนมา ในเมืองเมียวดี ก่อนส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (7 ม.ค.) ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด หลังพบนายหวังซิง หรือ ซิงซิง ข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้านบ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ไปยังเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีทั้งกาสิโนและคอมเพล็กซ์ของกลุ่มจีนเทา ภายใต้การดูแลของกลุ่มกะเหรี่ยง
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เดินทางมายัง อ.แม่สอด เพื่อติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเมียนมาส่งตัวนายหวังซิง หรือ ซิงซิง กลับมาฝั่งไทยแล้ว ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการสอบคัดแยกว่าเดินทางสมัครใจ หรือตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เซี่ยงไฮ้ของจีนแล้ว โดยน้องชายของนายหวังซิง แจ้งความกับตำรวจเซี่ยงไฮ้ ว่าพี่ชายถูกหลอกให้ไปทำงานบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ทางสถานทูตจีนจึงประสานให้ไทยช่วยตรวจสอบ จนพบว่า นายหวังซิง เดินทางจากสนามบินผู่ตงของจีน เข้ามาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. จากนั้นว่าจ้างแท็กซี่ให้ไปส่งที่ชายแดน อ.แม่สอด ราคา 5,000 บาท เดินทางถึง อ.แม่สอด ราว 10.30 น.
พล.ต.อ.ธัชชัย ยืนยันว่า จากการสอบปากคำคนขับรถและพยานแวดล้อม ไม่พบนายหวังซิงถูกบังคับมา เพราะเป็นผู้ว่าจ้างรถมาเอง และต้องผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ถึง 3 ด่าน ซึ่งเจ้าตัวต้องแสดงพาสปอร์ตและตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ แสดงให้เห็นว่าเป็นการสมัครใจ จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบจุดประสงค์ของนายหวังซิง ในการเดินทางจากจีนมายังไทย และข้ามไปยังเมียนมา ซึ่งต้องสอบปากคำอย่างละเอียดก่อน
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำแล้ว หากไม่พบความผิดปกติ จะนำตัวนายหวังซิง เข้ากรุงเทพฯ ให้ทางสถานทูตจีน ญาติ และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย