ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 3 ตีตกกรณีนาฬิกาหรู “พล.อ.ประวิตร”

สำนักงานป.ป.ช. 27 ธ.ค.-ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 3 “พล.อ.ประวิตร” พ้นผิดกรณีนาฬิกาหรู หลักฐานชัดนาฬิกาทั้ง 22 เรือน เป็นของ “ปัฐวาท สุขศรีวงศ์” ให้เพื่อนยืมใส่หลายคน 


นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลังจากที่ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง เรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไว้ต่อป.ป.ช.เมื่อเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันที่ 4 กันยายน 2557 และมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีไม่แสดงรายการเกี่ยวกับนาฬิกาและแหวนประดับมีค่าที่สวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ

เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ขอถอนตัวไม่เข้าร่วมพิจารณา คณะกรรมการท่านอื่นได้พิจารณาการรายงานผลการตรวจสอบปรากฏว่าสำนักงาน ป.ป.ช.ให้ พล.อ.ประวิตร ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว 4 ครั้ง ซึ่งพล.อ.ประวิตรชี้แจงว่านาฬิกาทั้งหมด 22 เรือนยืมจากนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและคืนไปหมดแล้ว ส่วนแหวนมีทั้งที่เป็นมรดกของบิดามารดามอบให้ระหว่างดำรงตำแหน่ง บางวงเป็นแหวนรุ่นหรือแหวนวัตถุมงคล มูลค่าราคาไม่สูงมาก และจากการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง และขอเอกสารหลักฐานจากผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาหรูในประเทศไทย ขอเอกสารและความร่วมมือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมศุลกากรและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบการสำแดงรายการนาฬิกาที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งผู้จำหน่ายนาฬิกาในต่างประเทศ ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายปัฐวาทเป็นนักธุรกิจที่มีฐานะทางการเงินและมีทรัพย์สินจำนวนมาก ชอบสะสมนาฬิการาคาแพง ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วพบว่ามีนาฬิการาคาแพงอยู่ในบ้านจำนวนมากกว่าที่ร้องเรียน และจากพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่านายปัฐวาทคอยช่วยเหลือสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มเพื่อนที่เคยศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และให้เพื่อนยืมนาฬิกาไปสวมใส่รวมถึงพล.อ.ประวิตรด้วย


นายวรวิทย์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาภาพของนาฬิกาจำนวน 25 เรือนพบว่าภาพข่าวที่ปรากฏมีภาพซ้ำกันสามคู่ จึงมีนาฬิกาที่ต้องตรวจสอบ 22 เรือนอยู่ในบ้านของนายปัฐวาท 20 เรือน พร้อมใบรับประกันนาฬิกาอีกหนึ่งเรือน แต่ไม่พบตัวเรือนรวมเป็น 21 เรือน โดย 21 เรือนพบหลักฐานว่านายปัฐวาทซื้อจากต่างประเทศ 1 เรือน และซื้อต่อจากผู้อื่น 2 เรือน ส่วนที่เหลือไม่พบหลักฐานการซื้อจากผู้จัดจำหน่ายในประเทศ และกรมศุลกากรไม่สามารถตรวจสอบยืนยันการนำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศได้ เพราะผู้นำเข้าบางรายไม่แสดงข้อมูลรายละเอียดของนาฬิกา ส่วนการขอข้อมูลการซื้อขายนาฬิกาจากต่างประเทศ บางประเทศปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล บางประเทศไม่สามารถตรวจสอบได้

เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานฟังได้ว่านาฬิกาที่ปรากฏเป็นข่าวเก็บรักษาอยู่ในบ้านของนายปัฐวาท แม้ไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานว่าเป็นผู้ซื้อ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1369 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ที่ยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้เป็นการยึดถือเพื่อตน จึงต้องด้วยบทสันนิษฐานตามกฎหมายดังกล่าวว่านายปัฐวาทเป็นเจ้าของนาฬิกาตามภาพข่าวจำนวน 21 เรือนและให้พล.อ.ประวิตรยืมใช้ในโอกาสต่าง ๆ ตามที่ปรากฏในภาพข่าว ประกอบกับนายปัฐวาทได้ให้เพื่อนคนอื่นยืมใช้นาฬิกาด้วย จึงรับฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยปกติของนายปัฐวาท 

“ส่วนนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนที่ไม่พบตัวเรือนและไม่พบใบรับประกันจากการตรวจสอบ ยังไม่พบรายละเอียดข้อมูลนาฬิกาเรือนดังกล่าว แต่เมื่อนาฬิกาเป็นสังหาริมทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย และนายปัฐวาทได้เสียชีวิตไปแล้ว และเมื่อรับฟังว่า พล.อ.ประวิตรยืมนาฬิกาจากนายปัฐวาทมาสวมใส่ในการออกงานต่าง ๆ จำนวน 21 เรือนข้างต้น จึงรับฟังได้ว่าพล.อ.ประวิตรยืมนาฬิกาเรือนที่ยังตรวจสอบไม่พบมาสวมใส่เช่นกันอย่างไรก็ตาม คณะกรรมการป.ป.ช.ให้แจ้งข้อมูลนาฬิกาจำนวน 22 เรือนต่อกรมศุลกากร เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป นอกจากนี้ ไม่ปรากฏว่านายปัฐวาทและบริษัทคอมลิงค์เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด” นายวรวิทย์ กล่าว


ส่วนกรณีแหวนที่สวมใส่ 12 วง เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาคำชี้แจงของพล.อ.ประวิตรเห็นว่าพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำนวนแหวนสามวงเป็นทรัพย์มรดกของบิดา พล.อ.ประวิตร ที่ได้รับมาจากมารดาในขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงไม่มีหน้าที่ต้องแสดงแหวนดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เช่นกัน จากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 ว่ากรณียังไม่มีมูลเพียงพอว่าพล.อ.ประวิตรจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น โดยกรรมการป.ป.ช.เสียงข้างน้อยเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ส่วนกรณีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินเกิน 3 พันบาทตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 128 หรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะทำงานอีกคณะหนึ่ง ยังไม่ได้สรุปผล.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี