พาณิชย์ปล่อยรถตรวจปั๊มเช็กหัวจ่ายทั่วไทย

นนทบุรี 20 ธ.ค. – รมว.พาณิชย์ ปล่อยรถตรวจเช็กสถานีบริการน้ำมันทั่วไทย หวังสร้างความอุ่นใจเติมน้ำมันทุกปั๊มเต็มลิตรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ย้ำพบปั๊มไหนโกงโดนกฎหมายทั้งจำและปรับแน่



นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังปล่อยขบวนรถโมบายตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวัดก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี บริเวณโถงด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ โดยเห็นว่าช่วงวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลปีใหม่มีประชาชนจำนวนมากต้องเดินทางไปต่างจังหวัด โดยใช้ยานพาหนะส่วนตัวและรถยนต์สาธารณะ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บริการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการก๊าซแอลพีจี และสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี เติมเชื้อเพลิงให้แก่ยานพาหนะของตนเอง ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินโครงการสถานีบริการน้ำมันเต็มลิตร สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าได้น้ำมันเต็มลิตร และกำกับดูแลสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีปริมาตรถูกต้องเต็มลิตร เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมและคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ 


ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ จึงได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดทำแผนการตรวจสอบมาตรวัดตามสถานีบริการในเส้นทางการเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปยังต่างจังหวัด ภายใต้โครงการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการน้ำมัน มาตรวัดก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีในเส้นทางการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบความถูกต้องมาตรวัดฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยออกตรวจสอบตามเส้นทางการเดินรถ เพื่อเดินทางออกไปต่างจังหวัด

ทั้งนี้ การออกตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งนี้ได้จัดสายตรวจทั้งหมด 37 สาย แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 สาย ประกอบด้วย สายตรวจที่ 1 ถนนสายพหลโยธิน ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สายตรวจที่ 2 ถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ถึงจังหวัดสุพรรณบุรี สายตรวจที่ 3ถนนบางนา-ตราด ถึงจังหวัดชลบุรี สายตรวจที่ 4 ถนนเพชรเกษม ถึงจังหวัดนครปฐม สายตรวจที่ 5 ถนนพระราม 2 ถึงจังหวัดสมุทรสาคร คาดว่าในส่วน 5 สายนี้จะตรวจสอบได้ 150 สถานี จำนวนหัวจ่ายโดยประมาณ 2,500 หัวจ่าย (เครื่อง) และอีก 32 สาย จะกระจ่ายตรวจไปทั่วประเทศ โดยออกตรวจตั้งแต่วันที่ 19- 28 ธันวาคมนี้


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์มีความเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะได้รับปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง ปริมาณก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีถูกต้องครบถ้วน และได้รับความเป็นธรรมใช้บริการในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลปีใหม่นี้ ทั้งนี้ หากพบไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงก๊าซ แอลพีจี และเอ็นจีวี สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมสั่งการให้กรมการค้าภายในดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากพบปั๊มใดเติมไม่เต็มลิตร หรือจงใจจะใช้กฎหมายชั่งตวงวัด ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่มี 5,500 แห่งทั่วประเทศ และเข้าร่วมโครงการน้ำมันเต็มลิตรกับกระทรวงพาณิชย์กว่า 4,000 แห่ง ที่เหลืออยู่ระหว่างจะเข้าร่วมโครงการ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง