กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- ผลการศึกษาใหม่ชี้ว่า เด็กหญิงและสตรีในรัฐทางเหนือของเมียนมาถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกไปบังคับแต่งงานในจีนมากถึง 7,500 คน
ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเมื่อปลายปี 2559 ชี้ว่า จีนมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 33.5 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนชาย 104.98 คน ต่อ หญิง 100 คน อันเป็นผลจากนโยบายมีลูกคนเดียวที่ใช้มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 และเพิ่งยกเลิกไปในปลายปี 2558 จึงมีการซื้อสตรีจาก สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาและเวียดนามไปเป็นภรรยา สตรีหลายคนไปอย่างเต็มใจ แต่หลายรายถูกหลอกหรือบังคับ
คณะสาธารณสุขบลูมเบิร์ก มหาวิทยาลัยจอห์นสฮอปกินส์ออกรายงานวันนี้อ้างการสัมภาษณ์คนจำนวนหนึ่งที่หลบหนีจากจีนกลับเมียนมาและคนที่ยังอยู่ในจีนว่า รัฐทางเหนือของเมียนมาที่มีการสู้รบอย่างกะฉิ่นและฉาน มีสตรีถูกบังคับแต่งงานในจีนราว 7,500 คน ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้มีลูกด้วย ปัจจัยที่ผลักดันให้พวกเธอเดินทางออกนอกประเทศคือ ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง การสู้รบ การพลัดถิ่น ความยากจน และการถูกยึดที่ดินทำกิน นายหน้าที่เป็นธุระจัดการมักเป็นคนในครอบครัวผู้หญิงเองหรือผู้อาวุโสประจำหมู่บ้าน โดยที่พวกเธอไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะมีสถานภาพต่ำที่สุดในลำดับชั้นทางสังคม หากยังเป็นเด็กหญิงจะได้ราคาสูงถึง 10,000-15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 328,000-492,000 บาท) ขณะที่เจ้าบ่าวจีนมักเป็นคนแก่ คนป่วยหรือคนพิการตามชนบท นอกจากนี้พวกเธอยังใม่มีสถานภาพทางกฎหมายในจีนด้วยเพราะแต่งงานอย่างผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย