fbpx

จบปะ! แจงไม่แพง ค่าโดยสารสูงสุดเชื่อมรถไฟฟ้าสองสาย 70 บาท


กรุงเทพฯ 29 พ.ย.- นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม แจงค่าโดยสารสูงสุดเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง-สีน้ำเงิน เพียง 70 บาท โดยคำนวณตามเพดานค่าโดยสารตามระยะทางของรถไฟฟ้าแต่ละสายมารวมกันหักค่าแรกเข้าสายที่ 2 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีเกิดประเด็นดราม่าในโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์ถึงมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามแนวทางในการกำหนดเพดานสูงสุดการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม.) โดยวิจารณ์ว่าเป็นราคาที่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบัน


“ราคาดังกล่าวถือเป็นราคาที่เหมาะสมเนื่องจากมีการคิดค่าแรกเข้าของผู้โดยสารครั้งเดียว คือ 14 บาท หลังจากนั้นจะเป็นการเก็บค่าโดยสารตามระยะทาง โดยมีราคา 70 บาทนั้น เป็นการกำหนดเพดานสูงสุด” รมช.คมนาคม กล่าว  

นอกจากนี้ ในอนาคตเมื่อมีการเพิ่มส่วนต่อขยายก็จะใช้แนวทางนี้ในการคำนวณค่าโดยสารคือมีการเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว เชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า มีการเดินทางเชื่อมต่อในหลายเส้นทาง

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.ชี้แจงที่มาของราคาเพดานค่าโดยสารสูงสุด 70 บาท มาจากการคำนวณนำค่าโดยสารสูงสุดของรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินสายละ 42 บาท มารวมกัน ซึ่งจะได้ราคาค่าโดยสาร 84 บาท แต่เมื่อหักค่าแรกเข้าออก 14 บาท ก็จะเหลือ 70 บาท เป็นเช่นเดียวกับหลักเกณฑ์การคำนวณค่าโดยสารตามระยะทางของรถไฟฟ้าแต่ละสาย ได้ถูกกำหนดไว้สูงสุด 42 บาท หรือ 12 สถานี แม้ว่าผู้โดยสาร จะเดินทางเป็นระยะทางมากกว่าการคำนวนตามกิโลเมตรอยู่แล้ว 


ส่วนในอนาคตเมื่อมีการเปิดรถไฟฟ้าสายใหม่ก็ใช้หลักการเดียวกันคือนำค่าโดยสารสูงสุดของสายที่มีการเดินทางเชื่อมต่อมารวมกัน แล้วคิดค่าแรกเข้าครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม การคำนวณค่าโดยสาร หากมีการเชื่อมต่อมากกว่าเส้นทางในปัจจุบัน ต้องไปคำนวณว่าในปีที่รถไฟฟ้าสายใหม่เปิดให้บริการนั้น ดัชนีราคาผู้บริโภคอยู่ที่เท่าใด เนื่องจากการคำนวณค่าโดยสารจากดัชนีราคาผู้บริโภค จะมีการคำนวณใหม่ทุก 2 ปี โดยค่าโดยสารที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคนั้นสำหรับในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก รวมทั้งมีปรับขึ้นและลงได้ตามภาวะเศรษฐกิจ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง