สกลนคร 8 ก.ย.-ป้าวัย 57 ปี จ.สกลนคร ร้องสื่อจบแค่ ป.4 แต่อยู่ดีๆ มีใบแจ้งหนี้เงินกู้ยืมเรียนมหาวิทยาลัยนับหมื่นบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. นายชัยชาญ แสนหูม อายุ 61 ปี เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนจังหวัดสกลนครว่า ครอบครัวเดือดร้อน กรณีที่มีหมายเรียกศาลจังหวัดสกลนคร โดยมีนางสมัย แสนหูม (ภรรยา) อายุ 60 ปี ตกเป็นจำเลย คดีผิดสัญญาหรือบันทึกการกู้ยืมเงินเรียน ระหว่างโจทย์นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน มอบอำนาจให้นางสาวพัชรีวรรณ จุ่นมีวงษ์ ทนายความตัวแทนยื่นฟ้องและดำเนินคดีแทน ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ต่อมามีหนังสือหมายเรียกลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 ระบุให้ไปศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อไกล่เกลี่ยให้การและสืบพยานตามคำฟ้องคดีผู้บริโภค จากนั้นทั้งสองสามีภรรยาขึ้นศาลจังหวัดตามหมายเรียก ช่วงรอเวลาปรากฏว่ามีบุคคลอ้างตัวเป็นทนายประจำอยู่ภายในศาล โดยอ้างว่าสามารถช่วยได้เรียกเงิน 3,000 บาท คดีจบ แต่ทั้งสองไม่สนใจ เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์และไม่ได้กระทำผิด เมื่อเข้าห้องให้คำต่อศาลได้นัดสืบพยาน ศาลเลื่อนไปลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
นางสมัย แสนหูม ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นจำเลย บอกว่า ตนเรียนจบชั้น ป. 4 โรงเรียนบ้านนอก อายุตอนนี้ 57 ปี แต่มาเกิดเรื่องโดนกล่าวหาว่าไปกู้ยืมเงินเรียนหนังสือ ซึ่งญาติพี่น้อง และลูกหลานแม้กระทั่งเพื่อนบ้านทราบข่าว ต่างหัวเราะเป็นเรื่องตลกขบขันไม่มีใครเชื่อเกิดขึ้นได้อย่างไร ด้านนายชัยชาญ แสนหูม สามี กล่าวว่า ครอบครัวไม่รู้เรื่องจริงๆ ต้องขอความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ได้กรุณาพิจารณากับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย ภรรยาหลังจากที่กลับจากศาลปวดหัวคิดมาก กินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ จากการตรวจสอบเอกสารหมายเรียกและคำฟ้องจากผู้รู้ พบว่านามสกุลตนเองก็เขียนผิด คือ แสนหูม เขียนเป็น แสนหมู ที่สำคัญลายเซ็นมือชื่อก็ไม่มีของผู้ฟ้อง รวมถึงนัดหมายวันก็เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อย่างไรก็ตามจำนวนเงินที่ระบุว่ายังค้างที่ต้องชำระหนี้แก่โจทย์รวมทั้งต้นและดอกเบี้ย จำนวน 11,0813 บาท นั้นคงขอความเมตตาจากศาลพิจารณาในเรื่องนี้
กองทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษาการเป็นนโยบายของรัฐบาล เมื่อปี 2549 เพื่อให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนแก่นิสิต เมื่อสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาเป็นเวลา 2 ปี พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 1% ต่อปี ของเงินต้นที่กู้ยืม โดยผ่อนชำระเป็นรายปี ตามอัตราที่กองทุนฯ กำหนด ครบถ้วนใน 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้.-สำนักข่าวไทย