พรรคพลังประชารัฐ 17 พ.ย.-พปชร.คึกคัก รับสมัครสมาชิก “สุวิทย์” นำนักวิชาการ นักธุรกิจรุ่นใหม่ สมัครสมาชิก พปชร. เตรียมเดินสายลงพื้นที่ขอนแก่นรับฟังความเห็นประชาชนเพื่อจัดทำนโยบาย เชื่อ ม.44 ขยายเวลาแบ่งเขต ไม่ได้เอื้อพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ย.) บรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มคนจากหลากหลายอาชีพมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เดินทางมาสมัครสมาชิก รวมทั้งนายธวัชชัย อนามพงษ์ และนายแสนคม อนามพงษ์ อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค
โดยนายสุวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมกับศิลปินจากค่ายต่าง ๆ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ / มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร ประธานเครือข่ายเอสเอ็มอี ผู้บริหารของบริษัทเอกชนรายใหญ่ ก่อนที่วันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) จะมีการประชุมใหญ่และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ส่วนสัปดาห์หน้า แกนนำพรรคจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและสงขลา เพื่อพบปะรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เกษตรกร และเอสเอ็มอี รวมทั้งเปิดหลักสูตรปัญญาประชารัฐ ก่อนจะนำมาประมวลผลเป็นนโยบาย
นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับการวางตัวบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ 1 ใน 3 ต้องมีชื่อนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ขณะเดียวกันยังไม่ได้ทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทาบทามในใจเท่านั้น เพราะส่วนตัวชื่นชมและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เต็มที่ แต่ทั้งหมดต้องเคารพมติพรรคและฟังเสียงสมาชิก รวมถึงประชาชน
นายสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดกรณีหัวหน้า คสช.มีคำสั่งที่ 16/2561 ให้อำนาจ กกต.เปลี่ยนแปลงพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง ขยายเวลาประกาศเขตได้จนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่มั่นใจว่าไม่ได้ออกมาเพื่อเอื้อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นการคาดเดากันไปเอง
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองขนาดเล็กเรียกร้อง กกต.ขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของพรรคเล็ก แต่ส่วนตัวเห็นว่าทุกอย่างควรเดินหน้าต่อ เมื่อกำหนดไว้วันไหน ก็ควรจะเป็นวันนั้น โดยปฏิเสธว่ากรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับความพร้อมของพรรคของพลังประชารัฐ เพราะพรรคมีความพร้อมที่จะลงเลือกตั้ง แม้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้ก็พร้อม
สำหรับความชัดเจนในการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี นายสุวิทย์ ยืนยันว่า จะลาออกอย่างแน่นอน และเป็นการลาออกพร้อมกันทั้ง 4 คน ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีแต่ละคนก็กำลังเร่งทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ ยืนยันไม่ใช่ต้องการสร้างความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่การลาออกไปแล้วแต่งตั้งคนใหม่เข้ามาเรียนรู้งานใหม่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่เสียเวลา คาดว่าเร็ว ๆ นี้คงจะได้เห็น
ด้านนายธวัชชัย เปิดเผยว่า ทำตามเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการให้มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อช่วยแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมา เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านมาตลอด ทำให้การของบประมาณลงไปจังหวัดจันทบุรีทำได้ยาก ทั้งนี้การลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าพบและแจ้งความประสงค์กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ พูดเพียงสั้น ๆ ว่าขอให้โชคดี
“ยอมรับว่าการออกมาครั้งนี้มีเคืองใจกันบ้างเล็กน้อย เพราะไม่ใช่ยุคของการนำโพลมาตัดสินในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง เมื่อประชาธิปัตย์ไม่ส่งตัวเองลงสมัคร ก็เลยตัดสินใจลาออก แต่ก็ถือว่าจากกันด้วยดี เพราะหลัง ๆ ยังส่งคนมาชวนให้กลับไป ขอยืนวันว่าการย้ายพรรค ไม่ส่งผลกระทบต่อการหาเสียง เพราะประชาชนในพื้นที่เลือกคน ไม่ใช่พรรคการเมือง และได้พูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว เนื่องจากการสังกัดพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ ได้เสนอขอหลาย ๆ โครงการในการพัฒนาจังหวัดจันทบุรี จึงมั่นใจว่าจะไดรับเลือกเป็น ส.ส.จันทบุรียกทีมอย่างแน่นอน” นายธวัชชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย