ชลบุรี 16 พ.ย.-ตำรวจพัทยาเร่งหาหาเบาะแสหนุ่มสักคิ้วลวงเด็กหญิงอายุ 14 ปี ข่มขืน พร้อมตรวจวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี ขณะที่ยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การของเด็กหญิงและกลุ่มเพื่อน เพราะมีความขัดแย้งหลายอย่าง รอผลตรวจร่างกายและสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำอีกครั้ง
จากกรณีที่เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 15 พ.ย.61 มีเหตุหนุ่มสักคิ้วลวงเด็กอายุ 14 ปี ไปข่มขืน เหตุเกิดที่หลังศูนย์บริการกีฬาทางน้ำ ริมชายหาดจอมเทียน ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว ► หนุ่มสักคิ้วลวงเด็ก 14 เข้าเต็นท์ข่มขืนริมหาดพัทยา
พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยความคืบหน้าของคดี ในเบื้องต้นยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การของเด็กหญิงอายุ 14 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยหลังจากได้รับแจ้งทั้งพนักงานสอบสวน ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันที สถานที่เกิดเหตุเป็นที่สาธารณะ รวมทั้งคำให้การผู้เสียหายว่ามีเพื่อนอยู่ด้วยกัน 4 คน และผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว นอกจากนั้นก็มีประชาชนที่ไปท่องเที่ยวอยู่ การลงมือข่มขืนอาจไม่น่าเป็นไปได้ ที่เพื่อนซึ่งอยู่ด้วยกันจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แม้เด็กจะให้การว่าผู้ก่อเหตุมีมีด หรือตัวผู้เสียหายจะไม่ส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ซึ่งในขณะนี้ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย รวมทั้งจะเรียกเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาให้ปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ เพราะเป็นเด็ก ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐาน
ล่าสุด ช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยวางกำลังกว่า 10 นาย ออกเดินสอบถามหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุ โดยกลุ่มเพื่อนเด็กหญิง 14 ปี เล่าว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีข้ามถนนไปทางซอย 5 จอมเทียน เบื้องต้นชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงและเส้นทางคนร้ายใช้ในการหลบหนี รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการหลบหนี
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับพ่อค้ารายหนึ่งซึ่งขายของริมหาดมากว่า 10 ปี เล่าว่า ตนเองเห็นผู้ก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง จะทำงานรับจ้างปล่อยเรือ หรือมีใครเรียกไปช่วยงานก็ไป โดยมีรอยสักที่คิ้วคลายคิ้วยักษ์ พร้อมทั้งให้ข้อมูลชุดสืบสวนต่อถึงลักษณะคนร้าย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหาข่าวทราบว่า หนุ่มรอยคิ้วสักดังกล่าวมีอาชีพไม่เป็นหลักแหล่งเป็นคนพื้นที่จอมเทียน เพิ่งพ้นโทษมาแล้วมาทำงานรับงานปล่อยเรือเจ็ตสกีให้คนเรือโดยรับจ้าง ไม่มีนายจ้างเป็นหลักแหล่ง แต่รับจ้างไปทั่วเพื่อแลกเบี้ยเลี้ยง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้มามอบตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้แก่เมืองท่องเที่ยว
ส่วนแนวทางการสืบสวนของตำรวจในเบื้องต้นยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การของเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในเรื่องการข่มขืน เพราะมีความขัดแย้งคำให้การหลายอย่าง รวมถึงบริเวณดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมา รวมถึงเพื่อนของเด็กหญิงดังกล่าว และออกมาช่วงดึกของกลุ่มเด็กดังกล่าวว่าออกมาทำไม อย่างไรก็ตาม จะติดตามเจ้าหนุ่มสักคิ้วมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย