ทำเนียบ 9 ก.ย.-นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมประชุมไทย-มาเลเซีย ประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6 โดย 2 ประเทศพร้อมร่วมมือทุกด้าน ไทยขอบคุณมาเลเซียที่มีบทบาทในการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ย้ำมุ่งมั่นแก้ไขสถานการณ์โดยสันติวิธี พร้อมเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้รอให้การต้อนรับ ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6
โดยได้มีการตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ จากนั้นจึงได้ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะรัหว่างคณะรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่าย
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน มีความใกล้ชิดรอบด้าน มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และประชาชนในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความผูกพันกันในปี 2560 ทั้งสองประเทศจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอีกด้วย ส่วนด้านความมั่นคงไทยและมาเลเซียต่างเผชิญกับประเด็นท้าทายความมั่นคงจากการก่อการร้ายระหว่างประเทศ จึงจะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและข่าวกรองให้มากขึ้น
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในการดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ โดยย้ำว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้โดยสันติวิธีและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นว่ากระบวนการพูดคุยยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการกำหนดทิศทางของการพูดคุยในระยะต่อไป โดยต้องอาศัยเวลาและความจริงใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับเรื่องบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่คั่งค้างมานาน ทั้งสองฝ่ายยังจะร่วมมือกันเพื่อพิจารณาจัดทำ MOU ความร่วมมือด้านการตรวจคนเข้าเมืองเพื่อช่วยตรวจตราและสอดส่องดูแลการสัญจรข้ามแดนไปมาของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ผู้นำ 2 ประเทศยังได้ร่วมกันประนามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียืนยันความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะร่วมมือกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการค้ามูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2561 โดยเห็นว่าภาคเอกชนทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการจัดตั้งสภาธุรกิจมาเลเซีย-ไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ
ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือกันส่งเสริมการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวระหว่างกัน และสนับสนุนการเปิดเที่ยวบินต้นทุนต่ำให้บริการเพื่อเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญระหว่างกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วย
การส่งเสริมความร่วมมือด้านพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและการเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนเพื่อส่งเสริมความกินดีอยู่ดีของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไทยและมาเลเซียต่างยินดีที่โครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนสำคัญมีความคืบหน้า อาทิ การขยายด่านศุลกากรสะเดา-จังหวัดสงขลา-บูกิตกายูฮิตัม โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกสองแห่ง ด่านศุลกากรบ้านประกอบ จังหวัดสงขลา-ดุเรียนบุหรง รัฐเกดะห์ การเชื่อมโยงโครงการเมืองยางพารา (Rubber City)
ส่วนความร่วมมือด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณมาเลเซียที่มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมขอบคุณมาเลเซียที่สนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
ขณะที่ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลมาเลเซียในการจดทะเบียนแรงงานต่างชาติที่ทำงานในมาเลเซียอย่างผิดกฏหมาย และแสดงความยินดีกับการพิจารณาของฝ่ายมาเลเซียในการออกใบอนุญาตทำงานพิเศษแก่แรงงานไทยในร้านอาหารไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านแรงงานระหว่างไทยกับมาเลเซียในโอกาสแรก
ความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลเป็นสาขาที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพทางความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซีย พร้อมยินดีที่มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสภาธุรกิจฮาลาลระหว่างมาเลเซียกับไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับความสำเร็จของมาเลเซียในการจัดงาน World Halal Conference 2016 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ก่อนจบการหารือนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Summit) ครั้งที่ 2 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในเดือนตุลาคมนี้ด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) สงขลา และนิคมอุตสาหกรรมยางพารา โกตา ปุตรา ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทเทรดวินส์ แพลนเทชั่น เบอร์หาด
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นการเเถลงข่าวนายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแด่ผู้นำมาเลเซียและ ภริยาด้วย.-สำนักข่าวไทย