มาเลเซีย 12 พ.ย. – ฟุตซอลไทยเดินหน้าสานฝันคว้าโควตาชิงฟุตซอลโลก 2020 เพื่อคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ติดต่อกันมาครอง
ฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน ได้เริ่มต้นแข่งขันครั้งแรกในปี 2001 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะแข่งขันปีละ 2 ครั้ง ก่อนจะมาเปลี่ยนแปลงแข่งขันเป็นปีละครั้งในปี 2006 ที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ จากนั้นแข่งขันปีละครั้งมาโดยตลอด และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทีมฟุตซอลไทยสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 14 มาครองได้สำเร็จ
ซึ่งเราย้อนไปดูผลงานของนักเตะโต๊ะเล็กไทยกันก่อน ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งในครั้งนี้โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส “ปูลปิส” กุนซือทีมชาติไทยชาวสเปน ไม่ได้นำนักเตะตัวหลักอย่าง “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, “ช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว และ “เนิร์ส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ไปร่วมทีมในครั้งนี้ โดยใช้นักเตะหน้าใหม่หรือตัวสำรองจากชุดใหญ่เป็นแกนหลักนำทัพโดยอภิวัฒน์ แจ่มเจริญ, คณิศร ภู่พันธ์, คฑาวุธ หาญคำภา, เกียรติยศ แฉล้มเขตร์, มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, เจษฎา ชูเดช, สราวุท ผลาพฤกษ์, นาวิน รัตนวงษ์สวัสดิ์, พรมงคล ศรีทรัพย์แสง เป็นต้น
โดยนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มทีมไทยโชว์ฟอร์มเยี่ยม ชนะ ติมอร์ เลสเต 14-0 จากนั้น ชนะบรูไน 17-0 และปิดท้ายรอบแรก ชนะเวียดนาม 4-1 ก่อนในรอบรองชนะเลิศชนะอินโดนีเซียช่วงต่อเวลา 3-2 หลังจากเสมอในเวลา 2-2 และเข้าไปชิงชนะเลิศ เอาชนะมาเลเซีย 4-2 ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ของทีมไทยทำให้คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 14
ซึ่งครั้งนี้ทำให้ “จ่าต๊อบ” เจษฏา ชูเดช กัปตันทีมชุดนี้ ทำสถิติคว้าแชมป์อาเซียนมากที่สุดของนักเตะโต๊ะเล็กไทย โดยคว้าแชมป์สมัยที่ 8 และยังทำสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของการแข่งขันอาเซียน โดยทำประตูครั้งนี้ 10 ประตู พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดไปครอง และทำเพิ่มสถิติยิงในรายการนี้เป็น 59 ประตู แซงหน้าสถิติเก่าของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ยิงได้ 49 ประตู
สำหรับรายการชิงแชมป์อาเซียนแข่งขันมา 15 ครั้งทีมไทยผูกขาดกับการคว้าแชมป์ โดยคว้าแชมป์ 14 ครั้งตั้งแต่ปี 2001, 2003, 2005, 2006, 2007, 2008, 2009, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017, 2018 โดยพลาดแชมป์ไปเพียงแค่ครั้งเดียวในปี 2010 ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เป็นเจ้าภาพ ซึ่งครั้งนั้นทีมไทยไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน เนื่องจากติดแข่งขันฟุตซอลไทยแลนด์ไฟว์ที่จังหวัดอุดรธานี โดยครั้งนั้นทำให้อินโดนีเซียคว้าแชมป์ไปครอง
ในระดับอาเซียนต้องยอมรับว่า ทีมไทยเหนือกว่าคู่แข่งขัน เป้าหมายหลักของทีมไทยคือ ต้องการคว้าแชมป์เอเชียให้ได้สักครั้ง เนื่องจากทีมไทยยังไม่สามารถสะกดคำว่าแชมป์เปี้ยนได้ จากการจัดแข่งขันมาทั้งหมด 15 ครั้ง
โดยทีมไทยทำดีที่สุดเพียงรองแชมป์ 2 ครั้ง ในปี 2008 กับ 2012 และคว้าอันดับ 3 มาได้ 5 ครั้ง
ส่วนในศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก ทีมไทย ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในย่านอาเซียน สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ถึง 5 ครั้ง
นับตั้งแต่ปี 2000 ที่กัวเตมาลา, ปี 2004 ที่ไต้หวัน, ปี 2008 ที่บราซิล โดย 3 ครั้งนั้นทีมไทยตกรอบแรก ก่อนที่ปี 2012 ที่ไทย และ 2016 ที่โคลอมเบีย ทีมไทยสามารถผ่านเข้ารอบสองได้
สำหรับศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2019 ในปีหน้าสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียนได้ออกโปรแกรมมาแล้ว โดยประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ วันที่ 21-27 ต.ค.ซึ่งจะคัดเอา 4 ทีมสุดท้าย เข้าไปเล่นชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน
โดยทีมไทยอยู่สายเอ ร่วมกับ เวียดนาม, ติมอร์ เลสเต, กัมพูชา ส่วนกลุ่ม บี : มาเลเซีย, เมียนมา, อินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย และจะคัดเอา 4 ทีมในศึกชิงแชมป์เอเชียไปเล่นชิงแชมป์โลก ที่ประเทศลิทัวเนีย ในปี 2020 ในปีเดียวกัน
ซึ่งเป้าหมายของทีมไทยหวังจะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายให้ได้เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน .- สำนักข่าวไทย