กรุงเทพฯ 2 พ.ย.- “อลงกรณ์” เตรียมตั้ง “คอรัปชั่นวอทช์” จับมือทุกภาคี ทุกภาคส่วน รับแจ้ง-ชี้เบาะแสทุจริตคอรัปชั่น รำระบบไอทีมาเป็นเครื่องมือ
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เตรียมจัดตั้งเครือข่าย “คอรัปชั่นวอทช์” (corruption watch) ร่วมมือกับทุกภาคีทุกภาคส่วน ร่วมทำสงครามปราบปรามคอรัปชั่น ทำหน้าที่รับแจ้งและชี้เบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบของภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการรื้อฟื้นกลุ่มคอรัปชั่นวอทช์ ที่เคยร่วมก่อตั้ง เมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยเป็นประธานตรวจสอบการทุจริต เพราะการปราบปรามคอรัปชั่น เป็นหน้าที่ของทุกคน ดังนั้น โดยครั้งนี้จะใช้ไอทีใช้เป็นเครื่องมือ
นายอลงกรณ์ กล่าวถึง กรณีภรรยาที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการใช้รถหลวงในการท่องเที่ยว ว่า ถือเป็นการคอรัปชั่นรูปแบบหนึ่ง แม้จะมีการชี้แจงว่า เป็นการไปทำกิจกรรมมอบทุนการศึกษา แต่ก็มีการใช้รถเพื่อการอื่นด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งของการฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะยังมีการกระทำผิดในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใช้เวลาหลวง ใช้รถหลวง ใช้น้ำมันหลวง ใช้ของหลวง ใช้งบเดินทางดูงานจัดประชุมจัดอีเว้นท์ฟุ่มเฟือย ไม่คุ้มค่า
“เราหย่อนยานในวินัย และไม่เคร่งครัดต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบมาเนิ่นนาน จนเข้าใจผิด คิดว่าทำได้ไม่ผิด ผมเสนอให้ใช้เครื่อบมือทางกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยความขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมของรัฐกับผลประโยชน์ส่วนตัว หรือ ที่เรียกว่ากฎหมาย 3 ชั่วโคตร และศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ จัดการขั้นเด็ดขาดกับปัญหาการเบียดบังการใช้ทรัพยากรของรัฐ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน” นายอลงกรณ์ กล่าว
ขณะที่กรณีกองทัพซื้อเฮลิคอปเตอร์แพงกว่าเอกชน นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและสำนักงบประมาณ ต้องเร่งตรวจสอบการจัดซื้อดังกล่าว และแถลงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ มิใช่ให้หน่วยจัดซื้อ คือกองทัพ ชี้แจงฝ่ายเดียว หากพบว่ามีการกระทำผิด ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการเอาผิด ขณะเดียวกัน ก็ต้องปฏิรูปราคากลางของพัศดุที่จะจัดซื้อของทุกหน่วยงาน .- สำนักข่าวไทย