กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – สมอ.เตือนผู้ทำ-นำเข้ากระติกน้ำร้อนไฟฟ้าต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานใหม่ มอก. 2062-2558 อิงมาตรฐาน IEC 60335-2-15 (2012) พร้อมปรับปรุงมาตรฐานน้ำปลา น้ำส้มสายชู และน้ำซอสปรุงรส
นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าใหม่ตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2062-2558 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ดังนั้น ผู้ทำ-ผู้นำเข้ากระติกน้ำร้อนไฟฟ้าจะต้องนำสินค้ามาทดสอ บเพื่อขอรับใบอนุญาต มอก. 2062-2558 กับ สมอ. และขอเตือนไปยังผู้ประกอบการที่ยังไม่มาขออนุญาตให้รีบดำเนินการตามมาตรฐานใหม่ หากพบสินค้าที่นำมาจำหน่ายไม่ได้คุณภาพตามที่ สมอ.กำหนดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
สำหรับมาตรฐานกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าฉบับใหม่นี้ อ้างอิงมาจากมาตรฐาน IEC 60335-2-15 (2012) โดยเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้าและมีการทดสอบระบบดิจิทัลที่ใช้ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เช่น ระบบเร่งเดือด ระบบปรับระดับอุณหภูมิ ระบบล็อคฝาอัตโนมัติ ฯลฯ รวมถึงซอฟต์แวร์ในระบบดิจิทัลที่ติดตั้งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงฝากถึงผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าที่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน ซึ่งติดอยู่บนตัวสินค้า จึงจะมั่นใจได้ว่าสินค้ามีความปลอดภัยในการใช้งาน มีคุณภาพและคุ้มค่า
ปัจจุบันมีผู้ทำและนำเข้าได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐานใหม่ 17 ราย แบ่งเป็นผู้ทำ 8 ราย และผู้นำเข้า 9 ราย จากเดิมมีผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐานเก่า 50 ราย แบ่งเป็นผู้ทำ 20 ราย และผู้นำเข้า 30 ราย ปัจจุบัน สมอ.กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 109 รายการ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานหรือมาตรฐานบังคับ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยในการใช้งาน
นอกจากนี้ สมอ.ยังปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานน้ำปลาพื้นเมือง มอก. 3-2526 ให้สอดคล้องตามมาตรฐานของคณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO (Codex Alimentarius Commission – CAC) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดมาตรฐานอาหารให้เป็นมาตรฐานสากล โดยมาตรฐานน้ำปลาที่ สมอ.กำหนดใหม่นี้จะควบคุมสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ทั้งโลหะหนักต่าง ๆ เช่น ตะกั่ว สารหนู ปรอท รวมถึงสารฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเกิดในกระบวนการหมักน้ำปลา ถือเป็นสารพิษที่เป็นอันตรายในอาหาร หากบริโภคเข้าไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ รวมทั้งควบคุมปริมาณสารอาหารในน้ำปลา เช่น ไนโตรเจน โซเดียม ให้เป็นไปตามปริมาณที่กำหนด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการกำหนดมาตรฐานคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2562
นอกจากมาตรฐานน้ำปลา สมอ.ยังปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานเครื่องปรุงรสอีก 2 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานน้ำส้มสายชู และน้ำซอสปรุงรส โดยมาตรฐานน้ำส้มสายชูดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานเสร็จ โดยปรับแก้ 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การควบคุมปริมาณสารปนเปื้อนต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และภาชนะที่ใช้บรรจุจากเดิมให้ใช้เฉพาะขวดแก้ว แก้ไขเป็นสามารถบรรจุในขวดพลาสติกได้ แต่ต้องเป็นขวดที่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก.เท่านั้น ส่วนมาตรฐานน้ำซอสปรุงรสจะดำเนินการหลังจากปรับแก้มาตรฐานน้ำปลาเสร็จ ซึ่งหลักการของ สมอ.ในการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารนั้น จะกำหนดโดยอ้างอิงมาตรฐานอาหารในระดับสากล และให้มีความสอดคล้องกับเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภคภายในประเทศ.-สำนักข่าวไทย