มาดริด 11 ต.ค. – องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ เปิดเผยวานนี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 โดยทางใต้ของยุโรปและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นเขตที่มีการขยายตัวมากที่สุด
ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงมาดริด ของสเปน กล่าวในแถลงการณ์ว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ที่ราว 641 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นายซูรับ โปโลลิคาซวิลลี เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ กล่าวว่า ตัวเลขข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรก เป็นตัวพิสูจน์เพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ฟื้นตัวและมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย มีตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักสำหรับทวีปยุโรป ส่วนอินเดียและเกาหลีใต้เป็นสองประเทศที่เป็นตัวขับเคลื่อนการขยายตัวในเอเชีย ยุโรปตอนใต้และเมดิเตอร์เรเนียน มีนักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 8.7 ในขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโต้ร้อยละ 9.4 ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนยุโรป ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 ส่วนจีน ซึ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวอันดับต้นของโลก ก็มีตัวเลขของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวใกล้เคียงกับเมื่อปีที่แล้ว ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ คาดหมายว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดทั้งปีจะขยายตัวร้อยละ 4-5 ในปีนี้.-สำนักข่าวไทย