fbpx

พพ.แจงโซลาร์เกาะลิบงโอนให้ อบต.ดูแลแล้ว พร้อมให้คำปรึกษาซ่อมบำรุงกลับมาผลิตใหม่

กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – พพ.ยืนยันโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ไม่ได้ทิ้งร้างให้สูญเงิน 80 ล้านบาทแต่อย่างใด เหตุโครงการดังกล่าวถูกส่งมอบให้กับ อบต.เกาะลิบงตั้งแต่ปี 2553 หน้าที่การบำรุงรักษาทรัพย์สินทั้งหมดจึงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ พพ. แต่ พพ.พร้อมให้คำปรึกษาทางเทคนิคหากจะมีการซ่อมบำรุง


นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยถึงข้อเท็จจริงโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมมือระหว่าง พพ.กับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่ และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) ประเทศญี่ปุ่น และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่ปี 2543 ด้วยงบประมาณ 80 ล้านบาทต่อมาโครงการได้สิ้นสุดลงปี 2547 จากนั้นได้มีการปรับปรุงระบบใหม่ เพื่อผลิตไฟฟ้าเชื่อมต่อกับสายส่งของ กฟภ. จนเสร็จสมบูรณ์ปี 2553 และได้ดำเนินการมอบโอนทรัพย์สิน ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลลิบงเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาทรัพย์สินทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2553

“เราได้โอนความรับผิดชอบการดูแลบำรุงรักษาทรัพย์สินทั้งหมดของโครงการนี้ไปแล้ว โดยได้มีการลงนามกับนายก อบต.ลิบง เพื่อรับมอบเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ 24 ธันวาคม 2553 ดังนั้น ภารกิจการซ่อมบำรุงเป็นหน้าที่ของ อบต.เกาะลิบงที่จะต้องพิจารณาดำเนินการ ทั้งนี้ หาก อบต.เกาะลิบงประสงค์ที่จะซ่อมบำรุงรักษาระบบ พพ.ก็ยินดีที่จะให้คำปรึกษาทางเทคนิคต่อไป” นายประพนธ์ กล่าว


สำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการวิจัยสาธิตระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์เชื่อมกับระบบผลิตไฟฟ้าเครื่องยนต์ดีเซลของ กฟภ. กำลังการผลิตรวมของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีขนาด 85 กิโลวัตต์ ประกอบด้วยระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบย่อย 2 ชุด          (ชุดที่ 1 ขนาดกำลังการผลิต 41.52 กิโลวัตต์ และชุดที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 43.56 กิโลวัตต์) และโครงการฯ สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคม 2547

ต่อมาปี 2551 พพ.ได้ตรวจสอบการทำงานของระบบฯ พบว่าระบบฯ มีสภาพชำรุดไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบจำหน่ายของ กฟภ.ได้ เนื่องจากระบบฯ มีการใช้งานมาระยะหนึ่ง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งเป็นอุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเกิดการชำรุดฯ ไม่สามารถซ่อมแซมภายในประเทศได้ เพื่อให้ระบบฯ สามารถใช้งานได้สำนักพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ (สพส.) ได้พิจารณาแนวทางเพื่อดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่ การดำเนินการรื้อถอนระบบฯ ในชุดที่ 2 กำลังการผลิต 43.56 กิโลวัตต์ และการปรับปรุงระบบฯ ในชุดที่ 1 กำลังการผลิต 41.52 กิโลวัตต์  ปี 2552 พพ.ได้ดำเนินการรื้อถอนระบบฯ เนื่องจากหมดความจำเป็นในการใช้งาน 1 ชุด (ชุดที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 43.56 กิโลวัตต์) ตามสัญญาว่าจ้างรื้อถอนและขนย้ายอุปกรณ์ของระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์แบบเชื่อมต่อกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ตามสัญญาเลขที่ 240/52 ลงวันที่ 17 กันยายน 2552 โดยปัจจุบัน พพ.นำแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในบางส่วนที่ได้จากการรื้อถอนไปใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนให้กับหน่วยงานอื่น รวมถึงการติดตั้งสำหรับใช้ใน พพ.

ปี 2552 พพ. ได้ดำเนินการปรับปรุงระบบฯ ใหม่ เพื่อผลิตไฟฟ้าเชื่อมต่อกับสายส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามสัญญาว่าจ้างปรับปรุงระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ขนาด 41.52 กิโลวัตต์ แบบเชื่อมต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้า เกาะลิบง จังหวัดตรัง ตามสัญญาเลขที่ 255/52 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 และต่อมาปี 2553 พพ.ได้ดำเนินการมอบโอนทรัพย์สินฯ ดังกล่าวให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นผู้รับผิดชอบดูแล บำรุงรักษา ทรัพย์สินทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553