fbpx

จับ 2ผัวเมียแสบสวมบัตรประชาชนคนตาย ก่อนนำไปจดทะเบียนเปิดบริษัทท่องเที่ยว

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- จับ 2 สามีภรรยา สวมบัตรประชาชนคนตาย ก่อนนำไปจดทะเบียนเปิดบริษัทท่องเที่ยว


พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลจับกุมนายกฤตภาศ เจริญฤทธิชัยกุล กรรมการ บริษัท ตงหลินทัวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และนางสาวกวงถ่วน แซ่หย่าง ภรรยา ในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน หลังตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. สืบสวนทราบว่า

นายกฤตภาศ ทำการสวมบัตรประชาชนของเด็กชายเส่อ แสนโซ้ง ที่แจ้งเกิดในตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน แล้วเสียชีวิตไปเมื่ออายุ 5 ปี แต่บิดามารดาไม่ได้แจ้งการตายเอาไว้ ทำให้นายกฤตภาศ สวมรอยไปแจ้งทำบัตรประชาชนชื่อ นายเส่อ แสนโซ้ง ที่อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2540 จากนั้นยังมีการไปขอทำบัตรประชาชนแจ้งที่อยู่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และขอเปลี่ยนเป็นชื่อนายกฤตภาศ เจริญฤทธิชัยกุล เมื่อปี 2545 กระทั่งครั้งสุดท้ายเมื่อ 11 มิถุนายน 2556 แจ้งขอทำบัตรใหม่ที่สำนักงานเขตลาดกระบัง โดยให้นางสาวกวงถ่วน ภรรยา เป็นผู้รับรองการทำบัตร


โดยผู้ต้องหานำชื่อและสถานะประชาชนไทย ไปขอจดทะเบียนเปิดบริษัท ตงหลินทัวร์ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตั้งแต่ปี 2556 เพื่อประกอบธุรกิจจัดนำเที่ยว ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เขตลาดกระบัง มีกำไรสุทธิ ในปีที่ผ่านมา 36 ล้านบาท

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2540 แอบอ้างข้อมูลของคนที่เสียชีวิตไปขอมีบัตรประชาชนใบแรกที่อำเภอพญาเม็งราย ทำให้มีสัญชาติไทยอย่างสมบูรณ์ และประกอบอาชีพไกด์นำเที่ยวช่วงปี 2540-2550 ก่อนเห็นลู่ทางทำธุรกิจเองจึงมาเปิดบริษัทธุรกิจนำเที่ยว

นอกจากนี้ ยังเตือนผู้ประกอบการขอจดทะเบียนทำธุรกิจให้ถูกต้อง ไม่เปิดช่องโอกาสให้กับชาวต่างชาติที่จะเข้ามายึดธุรกิจในประเทศไทย เพราะจากนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว หลังพบข้อมูลว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาสวมบัตรคนไทย 7 พัน ถึง 8 พัน คนทำธุรกิจท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้