แผนไทย เผายาบนหน้าท้อง

ตรัง 11 ก.ย.-คึกคัก! ผู้ป่วยเกี่ยวกับเลือดลม-ช่องท้อง แห่ไปใช้บริการเผายาบนหน้าท้องกับแพทย์แผนไทยที่โรงพยาบาลนาโยง  


ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย โรงพยาบาลนาโยง จ.ตรัง เปิดให้บริการเผายาบนหน้าท้อง หรือที่เรียกว่า “เผาเครื่องยาร้อน” เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับเลือดลมและช่องท้อง เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูกและอื่นๆ ซึ่งผู้ป่วยส่วนมาก เคยเข้ารับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันแล้วแต่ไม่หายขาด จึงหันมารักษากับแพทย์ทางเลือกหรือแพทย์แผนไทย เพื่อลดการกินยาและผลข้างเคียงที่อาจตามมาในระยะยาว ซึ่งขั้นตอนของการเผายาบนหน้าท้องของผู้ป่วยนั้น เริ่มทำการรักษากันมาตั้งแต่ปี 2555 ก่อนการรักษาแพทย์แผนไทยจะต้องคัดกรองผู้ป่วยก่อน หากมีไข้ มีแผลผ่าตัดหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มีกำเดาอุ่นกายกำเริบ ก็จะไม่เผายาให้ 


สำหรับศาสตร์การเผาเครื่องยาร้อน ใช้กันมากในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข วัตถุดิบหลักๆ ได้แก่สมุนไพรพื้นบ้าน นำวัตถุดิบหลักมาตำเข้าให้เข้ากัน ก่อนนำมาพอกบนหน้าท้องของผู้ป่วย ซึ่งจะต้องนวดน้ำมันเพื่อกระตุ้นบริเวณช่องท้องประมาณ 5-10 นาที เมื่อโรยเครื่องยาลงไปแล้วก็ใช้ผ้าชุบน้ำปิดลงไปบนหน้าท้อง ก่อนจะเท “เมทธิลแอลกอฮอล์” แล้วจุดไฟเผานาน 1-3 นาที รวมคนละ 3 ครั้งหรือจนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกว่าร้อน จึงใช้ผ้าชุบน้ำคลุมทับเพื่อยุติการรักษา ซึ่งแต่ละคนจะรักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งโดยใช้ตัวยาเดิมที่เก็บไว้ใช้เฉพาะคนหรือจนกว่าจะหมดกลิ่นและสีเปลี่ยนไป ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องทำโดยแพทย์แผนไทยที่ผ่านการฝึกอบรมและมีใบประกาศรับรองมาแล้วเท่านั้น ซึ่งแต่ละเดือนมีผู้ป่วยมาขอรับบริการกว่า 30-40 รายทั้งในและนอกเวลาราชการ 


ด้านนางสิตาพัชญ์ ธีรนิจคุณานนต์ แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ โรงพยาบาลนาโยง อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า จริง ๆ แล้วการเผาเครื่องยามีมาแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งโรงพยาบาลนาโยง นำมาใช้ประกอบการรักษาโรคเกี่ยวกับช่องท้องและปวดกล้ามเนื้อหลัง เคล็ดขัดยอก โดยมีผู้ป่วย 30-35 รายต่อเดือน ส่วนใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง