กรุงเทพฯ 8 ก.ย.-กรมชลประทานเร่งระบายน้ำในแม่น้ำบางปะกง หลังน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก ไหลลงแม่น้ำบางปะกง และทะเลอ่าวไทยช้า
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา(7 ก.ย. 61) มีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี วัดปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ได้ที่ประตูระบายน้ำแม่น้ำประจันตคาม 74.4 มิลลิเมตร และคาดว่า ฝนที่ตกบนเขาใหญ่จะมีปริมาณมากเช่นกัน ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไปเพิ่มในแม่น้ำปราจีนบุรีมากขึ้น ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณสถานี KGT.1 อ.เมืองปราจีนบุรี สูงกว่าตลิ่ง 18 เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าแนวป้องกันตลิ่งประมาณ 19 เซนติเมตร การระบายน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ลงสู่แม่น้ำบางปะกงเป็นไปได้ช้า เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับในพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง ต้องรับน้ำจากแม่น้ำนครนายกที่ไหลลงมาสมทบอีกทางหนึ่งด้วย การแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้เร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำทั้ง 2 จุด ที่ติดตั้งอยู่ในบริเวณสะพานแขวงการทางปราจีนบุรี 8 เครื่อง และบริเวณสะพานวัดบางแตน อ.บ้านสร้าง 15 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 23 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี 5 เครื่อง เตรียมพร้อมระบายน้ำหากเกิดน้ำท่วมขัง
สำหรับการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำบางปะกง ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด กรมชลประทาน ได้ให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครนายก โครงการชลประทานนครนายก และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ บริหารจัดการน้ำในภาพรวมร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือกระทบน้อยให้ที่สุด ด้วยการลดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกงในระยะนี้ โดยให้หันไประบายน้ำผ่านคลองพระองค์ไชยานุชิต เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ระบบชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร ที่มีสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร สามารถสูบน้ำระบายน้ำลงทะเลอ่าวไทยได้ประมาณ 210 ลบ.ม./วินาที และยังมีสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ ที่สามารถระบายน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่อีก 4 เครื่อง ระบายน้ำได้มากถึง 100 ลบ.ม./วินาที รวมปริมาณน้ำที่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ทั้งสิ้นประมาณ 310 ลบ.ม./วินาที หรือประมาณวันละ 27 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบัน(8 ก.ย. 61)มีการระบายน้ำรวม 17.30 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งจะช่วยลดและบรรเทาปัญหาการระบายน้ำทางด้านของแม่น้ำบางปะกงได้เป็นอย่างมาก-สำนักข่าวไทย