กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- สาวร้องคดี”ตำรวจทางหลวง – ผู้ใหญ่บ้าน”ไล่ยิงขณะขับรถในอำเภอสะเดา จ.สงฃลา แต่คดีไม่คืบ หวั่นอิทธิพลมืดหลังถูกขู่หากไม่ยอมเจรจายอมความ
ร้อยตำรวจเอกวัชรินทร์ เบญจทศวรรษ อดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้ช่วยเหลือด้านกฏหมาย นำนางสาวศิรินทร บุญจันทร์ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 6 กองบังคับการแราบปราม กรณีนางสาวศิรินทร ถูก ตำรวจทางหลวง ร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลทุ่งหมอ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และชาวบ้าน พยายามสกัดจับกุมและขับรถตามประกบไล่ยิงขณะขับรถกลับบ้านกลางดึกวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้นางสสาวศิรินทร ต้องขับรถหนีไปขอความช่วยเหลือบ้านญาติที่อยู่ระหว่างทาง โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวก็ตามมาตรวจค้นรถยนต์ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนแยกย้ายไปโดยไม่แสดงความรับผิดขอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สะเดา
นางสาวศิรินทร เปิดเผยอีกว่า หลังแจ้งความมีผู้บังคับบัญชาของตำรวจทางหลวงชุดดังกล่าวเรียกให้ไปเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ยอมความ โดยอ้างว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ในการสกัดจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด แต่เกิดการเข้าใจผิดตามรถผิดคัน ประกอบกับตนไม่ยอมหยุดรถให้ตรวจค้น เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงสกัด และยังขู่ว่าหากไม่ยอมความอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตของตนและครอบครัวได้ จนต้องลาออกจากงานเพราะไม่กล้าเดินทางออกไปนอกบ้าน
ด้าน ร้อยตำรวจเอกวัชรินทร์ กล่าวว่า ในระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงและผู้ใหญ่บ้านกลุ่มนี้ เคยมีพฤติการณ์ลักษณะนี้มา 5 คดีแล้ว ที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี หนึ่งในนั้นอัยการพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมรีดทรัพย์ผู้เสียหายเป็นเงิน 2 แสนบาท จึงมาร้องทุกข์กองบังคับการปราบปราม เพื่อตรวจสอบรับคดีไปทำต่อ เนื่องจากการทำคดีของตำรวจท้องที่ไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งเกรงกลัวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามก็ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย