กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – น้องชายเหยื่อยาลดความอ้วนมรณะ เมื่อปี 2561 ร้องกองปราบ หลังคดีกลับตาลปัตร ผู้ต้องหากลายเป็นพยาน ผ่านมา 4 ปี ยังไม่ขึ้นศาล ผู้ต้องหาที่เหลือ 1 คน ยังหลบหนี
นายวุฒิกร หมอนอิง น้องชายของนางสาวพิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี ผู้เสียชีวิตจากการกินอาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อ ลีน (LYN) เมื่อปี 2561 พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยเร่งรัดติดตามผู้ต้องหาคดีดังกล่าวที่หลบหนี ระหว่างกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล
นายวุฒิกร กล่าวว่า หลังจากที่พี่สาวเสียชีวิตจากการรับประทานอาหารเสริมยี่ห้อดังกล่าว และผลการชันสูตรจากโรงพยาบาลที่กาญจนบุรีระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากผลแทรกซ้อนจากสารต้องห้ามไซบูทรามีน และสารนอร์ไดอะซีแปม ที่ผสมอยู่ในอาหารเสริม
โดยคดีดังกล่าวตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 3 คน และใช้เวลา 3 ปีในการดำเนินคดี และมารู้ภายหลังมีการสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาเพียงคนเดียว คือ นายณัฐวัฒน์ วโรดม อายุ 46 ปี เจ้าของโรงงานที่ผลิตอาหารเสริม ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ร้องขอความเป็นธรรม อ้างว่าไม่ทราบว่ามีการผสมสารต้องห้ามในอาหารเสริมดังกล่าว จึงกลายมาเป็นพยานในคดี ทำให้ตนเองติดใจเป็นอย่างมากของการทำงานของตำรวจ ทั้งประเด็นผู้ต้องหากลายเป็นพยาน รวมทั้งความล่าช้าของคดี
ทั้งนี้นายวุฒิกรยังระบุอีกว่า หลังพี่สาวเสียชีวิต แม่ของตนเองก็ตรอมใจ และเสียชีวิตตาม ขณะที่ทางบริษัทผู้ผลิตอาหารเสริม ก็ไม่เคยช่วยเหลือเยียวยาใดๆ
ด้านนายรัชพล ทนายความ ระบุว่าล่าสุดช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานายณัฐวัฒน์ จำเลยที่เหลืออยู่เพียงรายเดียว แม้ว่าศาลได้นัดพร้อมคู่ความ เมื่อ 17 มกราคม ที่ผ่านมา แต่จำเลยหลบหนีไม่มาขึ้นศาล ทำให้ต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีก และสั่งพักคดีชั่วคราว จนถึงปัจจุบัน
จึงต้องการให้ตำรวจกองปราบช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี นอกจากนี้ยังมองว่าการใช้ระยะเวลานานถึง 3 ปีกว่าจะส่งฟ้องนั้น ถือว่าทำคดีล่าช้าอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารเพื่อพาผู้เสียหายไปติดตามความคืบหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย