fbpx

รฟท.ขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้า

กรุงเทพฯ  27 ส.ค. – การรถไฟฯ ขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้า เพิ่มสูงสุดได้ถึง 90 วัน ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการรถไฟ เริ่มให้บริการ 1 กันยายนนี้


 นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  เปิดเผยว่า รฟท.ได้ขยายระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าจากปกติ 60 วัน เพิ่มสูงสุดได้ถึง 90 วัน เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้มีโอกาสในการซื้อตั๋วล่วงหน้าในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น สามารถเลือกการเดินทางได้ทั้งแบบหมู่คณะหรือแบบคนเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนการเดินทางระยะยาว 

สำหรับการจองตั๋วล่วงหน้า 90 วันนั้น ผู้โดยสารจะต้องซื้อตั๋วเดินทางไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของระยะทางของขบวนรถ หากระยะทางน้อยกว่านั้น จะซื้อตั๋วได้ไม่ถึง 90 วัน 1.ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน 2.ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่างร้อยละ 25-59 ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน 3.ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน 


สำหรับการกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย  เช่น ผู้โดยสารเดินทางจาก กรุงเทพฯ – นครสวรรค์ ระยะทาง 246 กิโลเมตร เดินทางกับขบวนรถ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ซึ่งมีระยะทางขบวนรถ รวมทั้งสิ้น 751 กิโลเมตร ระบบจะคำนวณระยะทางเป็นร้อยละของระยะทางขบวนรถ คือ ระยะทางที่ผู้โดยสารเดินทาง = 246×100÷751 = ร้อยละ 32.756 เป็นต้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการซื้อตั๋วล่วงหน้าหรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจาก กรุงเทพฯ – นครสวรรค์ กับขบวนรถ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ สามารถทำได้ภายใน 30 วัน

นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการซื้อตั๋วล่วงหน้าเกินกว่า 90 วัน สำหรับการจองตั๋วหมู่คณะ ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ซึ่งจะมีอัตราค่าธรรมเนียมการจองตั๋วที่นั่งละ 40 บาท ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกประเภทการจองตั๋วได้ตามความเหมาะสมกับการเดินทาง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ ww.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ