ครม.สัญจร เตรียมพิจารณาแผนเขตเศรษฐกิจภาคใต้ นำร่องเส้นทางสุราษฎร์ – อ่าวไทยตอนบน

จ.ชุมพร  20 ส.ค.- ครม.เตรียมพิจารณาแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) เพื่อนำร่องพัฒนาเส้นทางสุราษฎร์ธานี-อ่าวไทยตอนบน  ขณะที่ภาคเอกชน  11 จังหวัดภาคใต้ เสนอวงเงินพัฒนากว่า  2 แสนล้านบาท  


ในการประชุมพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เตรียมพิจารณา ข้อเสนอจากกลุ่มจังหวัดทั้งสองฝั่งทะเล  ในการประชุมหว่างภาครัฐและเอกชน  พัฒนาโครงการ  11 จังหวัดภาคใต้ วงเงินกว่า  2 แสนล้านบาท  ในส่วนของ สศช.เตรียมเสนอแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC:Southern Economic Corridor) หรือ SEC กับเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC โดยต้องสร้างแรงจูงใจต่อการลงทุนผ่านการส่งเสริมการลงทุนเหมือนกับเขตอีอีซีภาคตะวันออก แต่อาจมีความแตกต่าง เพื่อต้องการให้เอกชนในพื้นที่ขยายการลงทุน 


การพัฒนาเส้นทางสุราษฎร์ธานี-อ่าวไทยตอนบน  หวังพัฒนาโครงข่ายคมนาคมส่ิ่งอำนวยความสะดวก  กิจกรรมขนส่งทาเรือ การขนส่งตามชายฝั่ง การพัฒนารถไฟทางคู่ชุมพร-ระนอง เพื่อพัฒนาเส้นทางไปสู่อันดามันเช่ือมกับฝั่งอ่าวไทยให้สะดวกมากขึ้น  เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ประกอบด้วยบังกลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา ท่าเรืออเนกประสงค์ยังมีประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ขนส่งสินค้า และการประมงร่วมกัน  การเดินหน้าส่งเสริมโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า การท่องเที่ยวเลียบชายทะเล ด้วยการพัฒนาเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดฝั่งอ่าวไทย   อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี-จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อเนื่องไปยัง จ.ชุมพร ,จ.สงขลา  และยังมีแผนสร้างถนนมอเตอร์เวย์ จากภาคกลางต่อยาวถึงจังหวัดชุมพร  

และต้องการพัฒนาจังหวัดภาคใต้ รวมโครงการ  11 จังหวัด  อาทิ โครงการ พัฒนาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การพัฒนาพันธุ์จนถึงการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า เนื่องจากพืชปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ จึงต้องการพัฒนาภาคใต้เป็นเมืองปาล์มครบวงจร เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาไบโอชีวภาพ เช่น การใช้น้ำมันปาล์มผลิตเป็นฉนวนไฟฟ้าในอุตสาหกรรมอิเล็ทรอนิกส์   ตลอดจนโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยคลองชุมพร เป็นการก่อสร้างคลองผันน้ำ จากคลองชุมพรเดิมลงสู่ทะเล เพื่อป้องกันอุทกภัย ที่มักท่วมถนนสายเอเชีย 41 ใกล้สี่แยกปฐมพรเป็นประจำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแหล่งธุรกิจสำคัญ เขตตำบลวังไผ่ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และร้านค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรในที่ราบลุ่มของคลองชุมพรตลอดสายอีกด้วย 3.โครงการป้องกันอาชญากรรม ติดตั้งกล้อง CCTV ตามจุดสำคัญทั่วทั้งจังหวัด

ส่วนโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำท่าแซะเป็นโครงการของจังหวัดชุมพร  รวมถึงโครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา และด่านสะเดา จ.สงขลา ชายแดนไทย-มาเลเซีย เร่งดำเนินการขยายท่าเรือน้ำลึกสงขลา และท่าเรือสงขลาที่ 2 เส้นทาง จ.ตรัง จ.สตูล  สร้างถนนเลียบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จ.พัทลุง เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ หรือ ครม.สัญจร ที่จังหวัดชุมพร ในวันที่ 21 ส.ค.61 นี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง