อิทธิพลพายุเบบินคาถล่ม น้ำป่าเข้าท่วมหลายจังหวัด

ภูมิภาค 18 ส.ค.- อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นเบบินคา พัดผ่านเข้าสู่ภาคเหนือของไทย ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ทะลักเข้าท่วมในหลายจังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือน


หลังตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนัก ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 100 มิลลิเมตร ทำให้ลำน้ำหลายแห่งในพื้นที่เอ่อล้น และท่วมเส้นทาง สายเชียงใหม่-เชียงราย ถึง 5 จุด บริเวณบ้านปางแฟน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 43 เลยวัดพระบาทปางแฟน ไปประมาณ 1 กิโลเมตร และบริเวณกิโลเมตรที่ 45 – 47 เป็นช่วงๆ ไปจนถึงเขตติดต่อกับจังหวัดเชียงราย ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างเส้นทาง ทำให้รถทุกชนิด ไม่สามารถผ่านได้ ขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง กำลังนำเครื่องจักรกล เข้าไปเปิดทางน้ำ เพื่อระบายน้ำอย่างเร่งด่วน ซึ่งในพื้นที่ยังคงมีฝนตก ลงมาอย่างโปรยปรายเป็นระยะ 


นายธีระพงษ์ ขจรเดชากุล รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เผยว่าขณะนี้กำลังเร่งนำเครื่องจักรมาปรับพื้นที่ทางไหลของน้ำเพื่อให้น้ำลดลงเร็วขึ้น และประสานศูนย์สะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อนำสะพานเบลีย์ชั่วคราว ตามจุดที่ถนนขาด คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยที่สุดไม่เกิน 3 วัน ที่จะสามารถใช้เส้นทางได้ เนื่องจากถนนขาดหลายจุด พร้อมทั้งให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นชั่วคราว ถ้าหากมาจากเชียงราย ให้ใช้เส้นทางสาย 118 มาถึงอำเภอเวียงป่าเป้า ไปแยกเข้าสาย 1150 จะไปทะลุอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และเข้าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เส้นทาง 1101 แทนส่วนความเสียหาย ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จังหวัดพะเยา ได้รับผลกระทบทุกอำเภอ รวม 9 อำเภอ หนักสุดที่ อำเภอปง และอำเภอเชียงคำ   อย่างที่ อำเภอเชียงคำ แม่น้ำสายหลักเริ่มทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ตำบลฝายกวาง ตำบลร่มเย็น ตำบลเจดีย์คำ  ตำบลหย่วน  ส่วนที่อำเภอปง ได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ตำบลงิม ตำบลขุนควร และตำบลปง โดยน้ำที่ไหลจากลำน้ำงิม, น้ำลู, น้ำปุก, น้ำคาง, น้ำควร, มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และท่วมถนนสายหลักระหว่างตำบล,หมู่บ้านทางหลวง กม.ที่ 1188 12+825-12+ 900 และกิโลเมตรที่ 13+340 – 13+400 


นายสิทธิ์ วงศ์ม่าน นายอำเภอปง จังหวัดพะเยา กล่าวว่า อิทธิพลจากพายุเบบินคาทำให้น้ำเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกหมู่บ้านในพื้นที่ปง 7 ตำบล กว่า 80 หมู่บ้าน โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยม ที่เป็นแม่น้ำสายหลักของอำเภอเมือง และ อำเภอปง เป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านภาคเหนือตอนบน 17 จังหวัด โดยที่ อำเภอปง จังหวัดพะเยา ความเสียหายส่วนมากจะเป็นพื้นที่การเกษตร ล่าสุด มีการประกาศเตือนให้อพยพชาวบ้านไปอยู่ในพื้นที่สูง เช่นโรงเรียน, วัด และเลี่ยงพื้นที่น้ำป่าไหลหลากไปใช้เส้นทางอื่นที่ปลอดภัยแทน 

เกษตรกรในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของลุ่มแม่น้ำน่าน ในอำเภอวังทรายพูนและพื้นที่ตำบลสายคำโห้ ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร  ต้องนำรถไถนาขนาดใหญ่มาชักลากท่อนไม้ ซึ่งถูกกระแสน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ พัดพาลงมาในลำคลองสาขาที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำน่าน หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุ “เบบินคา”  โดยกิ่งไม้ขนาดใหญ่และวัชพืชดังกล่าวไหลมาอุดตันบริเวณท่อระบายน้ำ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไหลระบายของมวลน้ำป่าก้อนใหญ่ ไม่สามารถระบายออกลงสู่แม่น้ำน่านได้   ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การทำนาปลูกข้าวหอมมะลิ พืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวนาในพื้นที่  จำนวนกว่า 3,000 ไร่ เริ่มได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมขัง ทำให้ชาวนาในพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอต้องเร่งช่วยกันเปิดทางระบายมวลน้ำป่าดังกล่าว ให้สามารถไหลระบายออกลงสู่แม่น้ำน่านได้โดยเร็ว และเป็นการป้องกันไม่ให้ต้นข้าวหอมมะลิในแปลงนาที่กำลังตั้งท้องและบางส่วนที่กำลังออกรวง จมน้ำป่าได้รับความเสียหาย เพราะจะทำให้ชาวนาต้องประสบปัญหาการขาดทุนตามมา

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 10.75 เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ถึง 52 ซม. ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 1.45 เมตร และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 เมตร เนื่องจากระดับน้ำทางตอนเหนือ คือ ที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย วันนี้เพิ่มขึ้นถึง 1.01 เมตร เช่นกัน อีกทั้งยังมีฝนตกทั้งในพื้นที่ ทางตอนบน และในสปป.ลาว จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเบบินคา ทางการต้องติดตามสถานการณ์และเตรียมรับมือน้ำโขงหนุนลำห้วย และฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน

ระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นได้เริ่มหนุนเข้าท่อระบายน้ำภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคายแล้ว ซึ่งเทศบาลเมืองทำการปิดปากท่อระบายน้ำที่ชุมชนสระแก้วที่มีระดับต่ำกว่าจุดอื่น และจะทยอยปิดปากท่อระบายน้ำในจุดอื่นๆ ที่เหลืออีก 6 จุด พร้อมทำการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำภายในเขตเทศบาลลงในแม่น้ำโขงแทน นอกจากนี้ระดับน้ำโขงที่สูงขึ้นยังได้หนุนเข้าลำน้ำสาขาต่างๆ ซึ่งลำน้ำสาขาที่มีประตูระบายน้ำทั้งที่ห้วยหลวงและห้วยโมง จะทำการปิดประตูระบายน้ำในช่วงบ่ายของวันนี้ แล้วใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระบายน้ำออกจากลำห้วยลงในแม่น้ำโขงแทน

ส่วนที่จังหวัดระนอง บริเวณจุดชมวิวน้ำตกปุญญบาล หมู่ 1 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อภาคกลางและภาคใต้ เกิดเหตุดินภูเขาเลื่อนไหล ความยาวจากบนภูเขากว่า 100 เมตร ซึ่งดินได้เลื่อนไหลทับถนนถึง 2 ครั้ง โดยเมื่อช่วงเย็นวาน(17ส.ค.) ที่ผ่านมา ดินได้เลื่อนไหลมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องจักรกลหนัก มาทำการตักดินออกจากพื้นที่ จนต้องมีการปิดถนนไม่ให้รถทุกชนิดผ่าน จนถึงเช้านี้ก็ยังคงต้องปิดถนนเนื่องจากยังมีดินเลื่อนไหลและฝนตกลงมาเป็นระยะ

ล่าสุดเช้านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประเมิน พบว่า ในพื้นที่จุดเกิดเหตุ ยังมีความเสี่ยงต่อเนื่อง เนื่องจากดินภูเขาอุ้มน้ำมาก มีการเลื่อนไหลดินจากบนภูเขาลงมาสู่ด้านล่างตลอดเวลา อีกทั้งยังคงมีฝนมาเป็นระยะ จึงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดทางจังหวัดระนอง ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติ ห้ามรถทุกชนิดผ่านโดยไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัย โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกทางเบี่ยงทั้งในส่วนที่มาจากทางภาคใต้ ทั้งในส่วนที่มาจากทางภาคกลาง ให้ใช้ทางเบี่ยงชึ่งมีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ทั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์ทุก 6 ชั่วโมง 

ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เนื่องจากมีฝนตกชุก และตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน ซึ่งจะมีฝนตกหนักในวันนี้อีก 1 วัน อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำได้  

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในภาคเหนือจะยังมีฝนตกชุกต่อเนื่องอีก 1 วันในวันนี้ (18 ส.ค.) แต่ปริมาณฝนจะไม่มากเท่าวันที่ 17 สิงหาคม เนื่องจากพายุเบบินคาที่ได้เข้าปกคลุมจังหวัดเชียงรายเมื่อเวลา 01.00 น. คืนที่ผ่านมา และเวลา 04.00 น. เคลื่อนตัวสู่จังหวัดเชียงใหม่ และได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง จึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในจังหวัดที่มีลักษณะภูมิประเทศลาดชัน เช่น น่าน พะเยา และอุตรดิตถ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง