น้ำป่าไหลหลาก ท่วมเขตเทศบาลบ้านไร่ อุทัยธานี

อุทัยธานี 20 ต.ค. – เมื่อคืนนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลาก จ.อุทัยธานี แม้ว่าน้ำจะลดลงแล้วเมื่อเช้า แต่ทิ้งความเดือดร้อนไว้ โดยเฉพาะบ้านเรือนและรถของประชาชนที่เสียหาย บางส่วนไหลไปกับสายน้ำ


หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันในช่วงเย็นวานนี้ (19 ต.ค.) ทำให้เกิดน้ำป่าสีแดงขุ่นไหลหลากรุนแรงจากพื้นที่ภูเขา ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ย่านการค้าของเทศบาลตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี น้ำแรงจนรถไหลไปกับกระแสน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก บางส่วนติดอยู่บ้านชั้นบน ไม่สามารถขนของหนีน้ำ หรืออพยพออกมาจากพื้นที่ได้ทัน เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลมาเร็วและแรงกว่าทุกปี

นอกจากบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายแล้ว กำแพงวัดบ้านไร่ก็พังถล่มลง เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลบ่าเช่นกัน และยังมีรถของชาวบ้านบริเวณตลาดสดบ้านไร่ และรถของนักท่องเที่ยวที่มีการแชร์ภาพรถที่ถูกน้ำพัดหายไป ก่อนจะพบอีกครั้งเมื่อประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา และมีการแจ้งเตือน สะพาน หมู่ 4 บ้านนาทุ่งเชือก ขาดทั้ง 2 ฝั่ง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวมถึงคาเฟ่ดัง สะนำคาเฟ่แอนด์บิสโทรได้โพสต์ภาพความเสียหายให้เห็นเช่นกัน


ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้าน และมีบางส่วนที่ไฟฟ้าดับ โดยมีบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ร่วมกับทีมกู้ภัยให้การช่วยเหลือด้วย

ขณะที่ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดจนนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ทั้งการสนับสนุนกำลังคน และเครื่องมือจากเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร มูลนิธิในพื้นที่ อาทิ ศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท สำนักงาน ปภ. จังหวัด อำเภอ โครงการชลประทาน หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยทหารในพื้นที่ ตำรวจ จิตอาสา อปพร. ซึ่งตลอดคืนระดับน้ำก็ได้ลดลงต่อเนื่อง จนถึงช่วงเช้าในพื้นที่ ต.บ้านไร่ น้ำได้ลดลงหมดแล้วเจ้าหน้าที่อยู่หว่างทำความสะอาดถนนสายหลักเพื่อเปิดเส้นทางสัญจรให้ประชาชน

ประชาชนในพื้นที่เล่าว่า น้ำเริ่มเอ่อขึ้นมาช่วงประมาณ 1 ทุ่ม แม้จะเตรียมกั้นกระสอบทรายไว้แล้ว แต่ไม่สามารถทานกระแสน้ำที่ไหลแรงและสูงกว่ากระสอบทรายได้ หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเจอน้ำป่าที่แรงขนาดนี้ ซึ่งหลังจากน้ำลดลงแล้วในช่วงเช้าก็ได้เริ่มทำความสะอาดดินโคลน และทยอยขนของที่เสียหายออกไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน