สำนวนคดี2ผัวเมียปล่อยเงินกู้นอกระบบถึงมืออัยการแล้ว

กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- สำนวนคดี 2สามีภรรยาปล่อยเงินกู้นอกระบบ ถึงมืออัยการแล้ว โดยจะพิจารณาสำนวนและสั่งฟ้องภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ผัดที่ 4 ครั้งสุดท้าย  


พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำสำนวนคดีเจ้าของร้านทอง 2 สามีภรรยา ชาวขอนแก่นปล่อยเงินกู้นอกระบบเรียกอัตราดอกเบี้ยโหด หนา 3,640 หน้า ส่งให้อัยการพิจารณา 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เกิดจากผู้มีรายได้น้อย ถูกเอาเปรียบจากกลุ่มผู้มีรายได้สูง ปล่อยเงินกู้ โดยคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด พร้อมเรียกเอกสารโฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งยังให้ผู้กู้เซ็นเอกสารสัญญาเปล่า ก่อนนำมาเขียนรายละเอียดของสัญญาภายหลังพรร้อมเพิ่มเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยโดยที่ผู้กู้เงินไม่รู้เห็นด้วย  ซึ่งสัญญาเปล่าที่ผู้กู้ต้องเซ็นนั้นจะมีทั้งสัญญาจำนองที่ดิน  สัญญาขายฝากที่ดิน แล้วแต่ความพอใจของเจ้าหนี้ นอกจากนี้ยังให้ลูกหนี้ทำบัตรฝากทองเพื่ออำพรางการปล่อยเงินกู้    


ทั้งนี้ผู้กู้บางรายชำระหนี้หมดแล้ว จะขอรับเอกสารสิทธิที่ดินคืนแต่ถูกปฏิเสธอ้างยังชำระหนี้ไม่หมด มียอดเงินกู้คงค้างชำระอีกเท่าตัว 

ด้านพันตำรวจเอกสมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บังคับการปราบปราม ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ระบุว่าพฤติการณ์ของสองสามีภรรยาคู่นี้ จะเปิดร้านทองบังหน้า แต่ชาวบ้านในพื้นที่รู้ดีว่าปล่อยเงินกู้นอกระบบ 

สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหาย 25 ราย  มูลค่าความเสียหายกว่า 25 ล้าน 1 แสนบาท และมีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มอีก 20 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน 


นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักคดีอาญาระบุว่า  ได้มอบหมายให้สำนักงานคดีอาญา 6 ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยจะพิจารณาสำนวนและสั่งฟ้องภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ผัดที่ 4 ครั้งสุดท้าย  

อย่างไรก็ตามสำหรับสองสามีภรรยาคู่นี้ ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย  เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด / ฉ้อโกงประชาชน ปลอมเอกสารสิทธิและร่วมการใช้เอกสารสิทธิปลอม รวมถึง ร่วมกันประกอบธุรกิจสิทธิเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย