เพชรบุรี 8 ส.ค.- นายกฯ ขอประชาชนเสียสละที่ดินเพื่อขยายคลองชลประทาน ให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยสร้างความเข้าใจ ย้ำลงพื้นที่ดูน้ำท่วมไม่ได้หวังผลการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินดูบริเวณสันเขื่อนเพชร เพื่อดูการระบายน้ำแล้ว ได้มีโอกาสพบกับประชาชนจากหลายอำเภอในจังหวัดเพชรบุรี ที่มาคอยให้กำลังใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเบาใจ คลายความกังวลสถานการณ์น้ำ แม้จะต้องมีน้ำท่วมขัง แต่จะไม่ยาวนาน เนื่องจากภาครัฐได้บริหารจัดการ พร่องน้ำไปแล้วกว่าร้อยละ 42 แต่หากมีคำเตือนจากภาครัฐ ก็ขอให้เก็บสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง หรือ หากจำเป็นต้องย้ายออกชั่วคราวก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีคนคอยดูแลทรัพย์สิน ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบก็จะมีการชดเชยช่วยเหลือในความเสียสละ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการทำหน้าที่ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ ทหาร และ คสช. ไม่ได้มาเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ก็ได้ถามประชาชนว่า มีใครไปเลือกตั้งหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสนใจติดตามสถานการณ์น้ำ และห่วงใยประชาชน จึงขอให้อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกนานๆ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนบางส่วนร้องเรียนให้ช่วยเหลือกรณีได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่หัวหิน ที่ต้องถูกให้ย้ายออกจากพื้นที่บริเวณริมทางก่อสร้างรถไฟสายดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีแล้ว รัฐบาลยังต้องดูแลสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ที่จะได้รับผลกระทบต่อไปด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าที่ประตูระบายน้ำคลองระบายน้ำสาย D9 ในพื้นที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยมีส่วนราชการและประชาชนต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังการดำเนินงานการขยายคลองชลประทานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้เพื่อตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยในการเตรียมการรับมือปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเร่งเดินหน้าโครงการขยายคลองชลประทาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามประชาชน ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการขุดคลองชลประทานเพื่อระบายน้ำหรือไม่ ซึ่งบางส่วนระบุว่าได้รับความเดือดร้อนบ้าง ดังนั้น ตนอยากให้ประชาชนในพื้นที่สานต่อโครงการและเสียสละพื้นที่ของตัวเองบางส่วนเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชน ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับและในอนาคตจะได้ใช้คลองดังกล่าวเป็นที่กักเก็บน้ำเพื่อใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจากการขุดคลองจะต้องมีผู้ได้รับความเดือดร้อนบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ
“ต้องเข้าใจร่วมกัน ความต่อเนื่อง ความเชื่อมโยง ทุกอย่างเหมือนกับคนที่มีเส้นเลือดใหญ่ เส้นเลือดกลางเส้นเลือดฝอย น้ำก็เหมือนกัน ถ้าทำแค่หลักอย่างเดียว ไม่ทำเส้นเลือดกลางเส้นเลือดฝอย มันไปไม่ทั่วร่างกาย แขน ขา ก็ไม่มีแรง ก็ต้องเริ่มแบบนี้นะ ใครสัญญากับนายกฯ บ้าง แบบนี้ไปได้แน่นอน ใครเป็นเจ้าของต้นทาง 4 กม. ผมขอนะ ขอหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเขาดูแลให้ ว่าอะไรยังไง ถึงแม้จะเป็นที่ของประชาชน ก็จ่ายค่าทดแทนอะไรเท่าไหร่ ถ้าไม่อย่างนั้น น้ำก็จะไม่ไหลมา เพราะ 4 กม.ต้นทางไม่มา ขอให้กำนันไปช่วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ตนมีความเป็นห่วงอยู่บ้าง ส่วนตัวไม่อยากให้มีประชาชนได้รับผลกระทบแม้แต่คนเดียว แต่หากจะต้องเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นจริง ก็ขอให้ท่วมในปริมาณไม่มาก และท่วมไม่นาน และอยากให้มองว่าไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยที่เกิดเหตุน้ำท่วม แต่ประเทศอื่นก็เกิดเหตุอุทกภัยเช่นเดียวกัน ทั้งเวียดนาม ลาว เมียนมา ซึ่งประชาชนต้องมีการเตรียมความพร้อม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ ไม่ได้มาเพื่อหวังผลทางการเมือง และไม่กลัวจะเสียคะแนนเสียงใดๆ เพราะว่าตนไม่มีคะแนนเสียงกับใคร และขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อคนที่มาสัญญาว่าจะให้สิ่งตอบแทนใดๆ ก็ตาม หรือเชิญชวนให้เข้าไปในกรุงเทพมหานครเหมือนที่ผ่านมาที่มีการจัดรถรับส่งในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนไปเลือกตั้งและต้องพิจารณาให้ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยต้องเดินด้วยยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท และการพัฒนาในแต่ละพื้นที่จะเป็นการสร้างรายได้ให้ประชาชน รวมถึงปรับเปลี่ยนอาชีพของแต่ละพื้นที่ สิ่งที่ทำในวันนี้ก็เพื่อประชาชนทุกคนและประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับประชาชน โดยมีประชาชนบอกให้นายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ และปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน และมีบางส่วนบอกให้นายกรัฐมนตรีอยู่นานๆ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าพูดแบบนี้จะถูกสื่อมวลชนมองเป็นเรื่องของการเมืองได้.-สำนักข่าวไทย