เมืองทองธานี 3 ส.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมหนุนเอสเอ็มอีเกษตรแปรรูป 2,000 ราย ภายในปีนี้ คาดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 400 ล้านบาท
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจการเกษตรมีแนวโน้มสดใส โดยรัฐบาลมุ่งเน้นพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer เพื่อส่งเสริมศักยภาพเกษตรกรไทย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ภายใต้ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารธุรกิจ SMEs ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป” ทั้งด้านพัฒนากระบวนการผลิต การลดต้นทุน เพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาด โดยเน้นการเพิ่มผลิตภาพด้วยเทคโนโลยี ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินโครงการ ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการภาคการเกษตร 2,000 กิจการ ภายในปี 2561 คาดจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 400 ล้านบาท
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้จัดทีมที่ปรึกษาลงพื้นที่ไปยังสถานประกอบการเพื่อวินิจฉัยและประเมินศักยภาพ พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึก รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจผ่านการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยใช้ระบบอัตโนมัติหรือดิจิทัล โดยตั้งเป้าผู้ประกอบการภาคการเกษตร 2,000 กิจการ แบ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจทั่วไป 1,600 กิจการ กลุ่มวิสาหกิจที่มีศักยภาพสูง 400 กิจการ และมุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้เพิ่มผลิตภาพชิงบูรณาการ 4,000 คน
นายนพพร เทพสิทธา กรรมการและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็มซิมแบงก์) กล่าวว่า ภาคเกษตรกรรมที่ยั่งยืนจะต้องใช้เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ ร่วมกับเกษตรอัจฉริยะ มีความคิดสร้างสรรค์นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำเกษตร เพื่อไปสู่การเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ นักธุรกิจเกษตร และผู้ประกอบการภาคเกษตร โดยต้องเพิ่มทักษะการบริหารจัดการโซ่อุปทานสินค้าเกษตรระดับฟาร์มให้กับเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนในกระบวนการและเพิ่มศักยภาพให้เกษตรกรในการเข้าร่วมจัดการและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้น
ขณะที่การแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้นโลจิสติกส์ที่ดีจึงเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งสินค้าและการบริการให้กับผู้ประกอบการสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าและแข่งขันได้ . – สำนักข่าวไทย