ภูมิภาค 28 ก.ค.-ผู้ว่าฯ นครพนม ประกาศเขตภัยพิบัติ 7 อำเภอ หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากฝนที่ตกหนักสะสมนานเกือบสองอาทิตย์
ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจากสถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพิ่มขึ้น 11 เซนติเมตร ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งให้เจ้าหน้าที่รายงานระดับน้ำทุกชั่วโมง และประกาศพื้นที่ 7 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติ คือ ท่าอุเทน โพนสวรรค์ ธาตุพนม เรณูนคร ปลาปาก อำเภอเมือง และบ้านแพง มีรายงานว่าระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยเฉพาะที่ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง ส่วนที่ตำบลบ้านกลาง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายหลายแห่ง ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง เพิ่มขึ้นแตะ 11 เมตรแล้ว ต้องสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของเก็บขึ้นที่สูง นอกจากนี้ยังพบความเสียหายของกระชังเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ที่ไม่มีปลาเหลือแม้แต่ตัวเดียว ความเสียหายหลายหมื่นบาท เจ้าหน้าที่ต้องชักลากเข้าฝั่งและหาเจ้าของมารับคืน
ส่วนที่จังหวัดมุกดาหาร กำลังทหารลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ในอำเภอดงหลวง ที่ประสบปัญหาน้ำเอ่อล้นถนนรถผ่านไม่ได้ และยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานน้อย ไหลลงมาสมทบท่วมไร่นา สวนยางพารา เป็นบริเวณกว้าง เช่นเดียวกับระดับน้ำในเขตเทศบาลเมือง ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร ล่าสุด อยู่ที่ 11.38 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 20 เซนติเมตร ขณะที่ระดับน้ำจุดวิกฤติอยู่ที่ 12.50 เมตร
เมื่อคืนนี้ได้เกิดเหตุเรือประมงขนาดเล็กลงที่คลองบากัน หมู่ 2 ตำบลอ่าวลึกน้อย จังหวัดกระบี่ ส่งผลให้ 2 พ่อลูก จมหายในทะเลไม่ทราบชะตากรรม ตลอดทั้งวันนี้ตำรวจและชาวบ้านนับ 100 คนได้นำเรือประมงกว่า 30 ลำออกช่วยค้นหา แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีฝนตกหนักคลื่นลมแรง โดยผู้สูญหายคือนายศุภโชค เนื้ออ่อน และเด็กชายจิระศักดิ์ อายุ 6 ปี ลูกชาย ได้นำเรือประมงขนาดเล็กออกไปซ่อมแหหาปลา และถูกคลื่นซัดเรือล่มทำให้พลัดตกเรือ สูญหายไปในทะเล.-สำนักข่าวไทย