ดีเอสไอ 25 ก.ค.-ดีเอสไอส่งสรุปสํานวนคดีฟอกเงินกรุงไทย ให้พนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทีมโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แจ้งข่าวถึงสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟอกเงินที่เกี่ยวกับการอนุมัติ สินเชื่อโดยมิชอบของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ให้กลุ่มธุรกิจในเครือกฤษฎามหานคร เป็นคดีพิเศษที่ 36/2550 โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและอัยการร่วมสอบสวน มีการดำเนินคดีกับบุคคลและ นิติบุคคล จานวน 13 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสรุปสำนวนการสอบสวนส่งไปยังพนักงานอัยการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ได้มีหนังสือกล่าวโทษขอให้ ดีเอสไอพิจารณาดาเนินคดีอาญากับ นางเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และนายพานทองแท้ ชินวัตร รวม 4 คน ในความผิดฐานฟอกเงิน เพิ่มเติมด้วย
ซึ่งดีเอสไอพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก จึงแยกกรณีดังกล่าวโดยรับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 โดยล่าสุดคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน เห็นว่าการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงสรุปสำนวนสอบสวนและมีความเห็นเสนออธิบดีดีเอสไอโดยอธิบดีฯมีความเห็นทางคดีในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแล้ว และในวันนี้(25ก.ค.) ได้ส่งความเห็นพร้อมสำนวนการสอบสวนและตัว ผู้ถูกกล่าวหาไปยังพนักงาน อัยการเพื่อพิจารณาดาเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทีมโฆษกดีเอสไอระบุด้วยว่าในกรณีที่มีผู้ร้องขอให้ดีเอสไอดำเนินการสืบ สวน กรณีที่มีบุคคลอื่นได้รับเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจากการอนุมัติสินเชื่อของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จากัด(มหาชน)โดยมิชอบ ด้วยว่าเป็นความผิดอาญาหรือไม่นั้น ดีเอสไอได้มอบหมายให้กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เป็นผู้ดำเนินการ โดยเป็นสำนวนสืบสวนที่ 253/2560 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์เส้นทาง การเงินที่มีจำนวนมากและมีความคืบหน้าไปมากแล้ว จึงได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ดีเอสไอมีหนังสือแจ้งให้นายพานทองแท้กับพวกมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวพร้อมสำนวนคดีไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ แต่ฝ่ายผู้ต้องหาขอเลื่อนนัดให้เร็วขึ้น ในวันนี้จึงนำตัวผู้ต้องหาไปส่งมอบให้อัยการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย