ภูมิภาค 19 ก.ค.-จากพายุอิทธิพลพายุเซินติญ ทำให้หลายพื้นที่ใน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่วนนครพนม ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ต้องเดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชม. ด้านจันทบุรี พายุงวงช้างพัดถล่มทุเรียนหักโค่นกว่า 1,000 ต้น
หลังได้รับอิทธิพลจากพายุ “เซินติญ” ทำให้หลายพื้นที่ใน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในลำคลองบุษบง ซึ่งไหลผ่านเขตชุมชน อ.ชนแดน ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร อาทิ หมู่ 8 บ้านวังดินดำ ต.ศาลาลาย มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมหลายสิบหลัง โดยระดับน้ำที่ท่วมบนถนนสูงเฉลี่ย 30-50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้
นอกจากนี้ยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนภายในชุมชนพื้นที่หมู่ 14 บ้านดงขุยเหนือ และหมู่ 4 บ้านดงขุยใต้ ต.ดงขุย อ.ชนแดน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30-50 ซม. การสัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนถนนสายชนแดน-ตะพานหิน ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร ต้องปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องทาง
นายชาคินทร์ อินอิ่ม นายอำเภอชนแดน กล่าวว่า มวลน้ำก้อนนี้เป็นน้ำป่าจากเทือกเขารัง หลังฝนตกหนัก ทำให้ไหลหลากลงสู่คลองบุษบงและเต็มตลิ่ง แต่เนื่องจากในเขตพื้นที่ ต.ดงขุย พบว่าคลองบุษบงค่อนข้างแคบและลาดชัน น้ำจึงเอ่อออกจากตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรติดริมน้ำ
โดยช่วงเย็นวานนี้ (18 ก.ค.) น้ำป่าจากเทือกเขาน้ำหนาวหลากเข้าท่วม 9 หมู่บ้านของ ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 500 ไร่ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารที่ 28 เร่งลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง เตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาอีกระลอก
หลังมีประกาศเตือนพายุฝนเคลื่อนตัวผ่านประเทศเวียดนามและลาว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ จ.นครพนม ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องช่วง 2-3 วันนี้ ทำให้หลายพื้นที่มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 8 เมตร เพิ่มขึ้นวันละประมาณ 40-50 ซม. ห่างจากจุดวิกฤติประมาณ 5 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก รวมถึงลำห้วยต่างๆ ที่เชื่อมไปยังแม่น้ำโขง ไหลระบายช้า บางพื้นที่เกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรแล้วหลายพันไร่ เนื่องจากไหลระบายไม่ทัน
ส่วนที่ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสะพานและฝายน้ำล้น 2 แห่ง บริเวณบ้านป่าละอู และบ้านปากคลอง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน หลังถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลลงสู่แม่น้ำปราณบุรีอย่างรวดเร็ว และกระแสะน้ำเชี่ยวซัดสะพานจนพังเสียหาย เนื่องจากช่วง 3 วันที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันในเทือกเขาตะนาวศรีและพื้นที่ห้วยสัตว์ใหญ่ จากอิทธิพลของพายุเซินติญ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงแม่น้ำปราณบุรีและคลองสาขาต่างๆ น้ำป่าที่ไหลเชี่ยวแรงได้ซัดสะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้านได้รับความเสียหาย รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมา
ที่จันทบุรี เกิดพายุงวงช้างพัดถล่มสวนผลไม้ในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน 3 ตำบล เขต อ.ท่าใหม่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน ไม้ผลยืนต้น เช่น ทุเรียน ลองกอง สละ และกล้วยไข่ ถูกแรงลมพัดหักโค่นเสียหายรวมกว่า 1,000 ต้น .-สำนักข่าวไทย