ภูเก็ต 7 ก.ค.- เจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายที่เหลือจากเหตุเรือล่มในภูเก็ต ขณะที่ปลัด สธ.ลงพื้นที่ติดตามการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เตรียมความพร้อมส่งกลับประเทศ ยืนยันมีห้องเย็นเพียงพอรองรับเก็บศพ
กรณีเหตุเรือล่มในจังหวัดภูเก็ตเมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรือฟินิกซ์ล่มบริเวณเกาะเฮ อ.เมือง เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายมาเป็นวันที่ 3 หลังจากพบผู้เสียชีวิตแล้ว 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และยังเหลือผู้สูญหายอีก 23 รายขณะเดียวกันสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 5 สาขาภูเก็ต ได้ออกประกาศไม่ให้เรือทุกลำออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองในวันนี้ (7 ก.ค.) ยกเว้นได้รับการอนุญาตจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการค้นหาผู้สูญหายอย่างเร่งด่วน
ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 33 ราย ทีมกู้ชีพกู้ภัยได้นำส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยโรงพยาบาลได้ร่วมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจและหลายภาคส่วนดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ และผู้เสียชีวิตที่พิสูจน์แล้วส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และตามโรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลสิริโรจน์ และโรงพยาบาลป่าตอง ซึ่งเป็นตู้เก็บศพที่ได้มาตรฐานที่สามารถเก็บได้นานจนกว่าจะพร้อมส่งผู้เสียชีวิตกลับประเทศ
เมื่อเวลา 09.20 น. (7 ก.ค.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาติดตามการทำงานพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่ศูนย์ประสานงานอุบัติเหตุฉุกเฉินโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
นพ.เจษฎา กล่าวว่า ยอดเสียชีวิตยังอยู่ที่ 33 ราย สูญหาย 23 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บที่ส่งเข้ามารักษา มีทั้งหมด 53 ราย นอนอยู่ในโรงพยาบาล 13 ราย คือ โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต จำนวน 10 ราย และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 3 ราย สำหรับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ตั้งศูนย์ประสานงานอุบัติเหตุฉุกเฉินโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 19.00 น. และมีการปฏิบัติงานมาโดยตลอด และวันนี้ทางนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ได้ส่งทีมมาช่วยพิสูจน์อัตลักษณ์จำนวน 4 ทีม ซึ่งสามารถพิสูจน์แล้ว 8 ราย ในเวลาหนึ่งชั่วโมง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการพิสูจน์อัตลักษณ์ต่างๆ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 33 ราย ซึ่งจะรีบทำให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ และหลังการพิสูจน์เสร็จสิ้น ทางโรงพยาบาลจะออกใบมรณบัตรให้กับญาติผู้เสียชีวิต ส่วนการจัดเก็บศพนั้น โรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตสามารถเก็บได้กว่า 20 ศพ และยังได้รับการเอื้อเฟื้อเพิ่มอีก 20 โรงเย็น ซึ่งมีเพียงพอในการรองรับศพที่พิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยก่อนไปไว้ตามโรงพยาบาล
ขณะที่การติดต่อรับศพของญาติ สามารถมาติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการ One Stop Service จองโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ญาติสามารถมาตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม ซึ่งทางโงพยาบาล จะเป็นผู้ประสานงานในเรื่องต่างๆ ให้ทั้งหมด เวลานี้มีตำรวจท่องเที่ยวส่งทีมมาช่วยเหลือที่ศูนย์ประสานงานฯ .-สำนักข่าวไทย