ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 6 ก.ค. – “สมคิด” สั่ง ธอส.-การเคหะฯ ผุดโครงการบ้าน รองรับผู้มีรายได้น้อย คนหนุ่มสาววัยทำงาน และคนชรา กำหนด 3 เดือนแผนงานชัดเจน ขณะที่ ธอส.พร้อมดึงเอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP บ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 3,000 บาทต่อเดือน พร้อมหารือคลังให้สิทธิประโยชน์เอกชนร่วมลงทุน การันตีอยู่ในกรอบแบงก์ชาติคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “บ้าน ธอส. เอ็กซ์โป ประจำปี 2561 : GH Bank Expo 2018” ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกล่าวว่า เดือนนี้เป็นเดือนเกิดของตน จึงขอของขวัญจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และการเคหะแห่งชาติให้ร่วมกันจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยรองรับ 3 กลุ่มหลัก เพราะถือเป็นภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือผู้อยู่อาศัย กลุ่มแรกผู้มีรายได้น้อย เพราะไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อแบงก์ต่าง ๆ ได้ มีความจำกัดในการผ่อนชำระ แต่มีความจำเป็นต้องมีบ้านอยู่อาศัย กลุ่ม 2 คนหนุ่มสาววัยทำงานพึ่งจะมีเงินเดือนสร้างครอบครัว นับเป็นกลุ่มกำลังหาบ้านเป็นของตัวเองจากที่เคยเช่า และกลุ่ม 3 คนชรา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีบุตรหลานดูแล จึงต้องการให้ 2 หน่วยงานรัฐผุดโครงการกระจายทั่วประเทศต้องคืบหน้าภายใน 3-4 เดือน ยืนยันว่าคนมีรายได้น้อยส่วนใหญ่จะไม่เบี้ยวหนี้ผ่อนชำระหนี้ตามความสามารถเมื่อได้บ้านเป็นของตัวเอง
“บรรยากาศของภาพเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริโภคเริ่มมีกำลังซื้อ เพราะเศรษฐกิจดีขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา จึงต้องการให้ ธอส.มุ่งเดินหน้าตามนโยบายให้คนไทยมีบ้าน เพราะเมื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องดีขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะตามเส้นทางหลักทั้งรถไฟ ถนน โครงสร้างขนาดใหญ่ที่รัฐบาลพัฒนาขึ้น เพื่อกระจายโครงการที่อยู่อาศัยออกไปครอบคลุมทุกจังหวัดที่มีความต้องการบ้าน” นายสมคิด กล่าว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า จากนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีให้จัดทำที่อยู่อาศัย 3 กลุ่มนั้น ธอส.จะเข้าไปดำเนินโครงการทั้งหมดร่วมกับการเคหะแห่งชาติตั้งแต่ออกแบบโครงการ จัดสรรที่ดิน ปล่อยสินเชื่อให้กับเอกชนร่วมก่อสร้างและปล่อยกู้รายย่อย สำหรับรายย่อยผู้ซื้อบ้าน คาดว่าจะทำบ้านไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 40 ปี พร้อมเสนอกระทรวงการคลังให้สิทธิประโยชน์เอกชนผู้สร้างโครงการและจัดทำตัวชี้วัด KPI จากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะไม่กระทบแผนควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีความกังวลในปัจจุบัน คาดว่าจะผุดโครงการในพื้นที่ที่มีศักยภาพมีความต้องการของผู้ซื้อและความสามารถสร้างโครงการของภาคเอกชน จึงต้องปรับแผนเน้นสร้างบ้านแนวสูง เพราะจะทำให้คุมราคาบ้านไม่แพงมากรายย่อยเข้าถึงได้
นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน “บ้าน ธอส. เอ็กซ์โป ประจำปี 2561” เปิดงานวันแรกได้นำโปรโมชั่นพิเศษมาให้บริการประชาชน เพื่อทำให้คนไทยมีบ้าน เพียงวันแรกของการจัดงาน (5 ก.ค. 61) ประชาชนจองสิทธิ์และยื่นกู้ด้วยสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 0.65 ต่อปี นาน 6 เดือนแรก มียอดยื่นขอสินเชื่อกว่า 4,000 ล้านบาท จากวงเงินเตรียมไว้ 6,500 ล้านบาท คาดว่าหลังการจัดงานจะเกินหมื่นล้านบาทยังอยู่ในกรอบวงเงินพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้ ขณะที่มหกรรมบ้านมือสองซึ่งรวบรวมทรัพย์ NPA ของสถาบันการเงินของรัฐ (SFIs) และหน่วยงานรัฐกว่า 10,000 รายการมาจำหน่ายหรือออกประมูลด้วยส่วนลดสูงสุดถึงร้อยละ 60 จากราคาปกติ ทำยอดขายได้แล้วกว่า 200 รายการ
สำหรับงานบ้าน ธอส. เอ็กซ์โป @ กรุงเทพฯ ประจำปี 2561 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 8 กรกฎาคม 2561 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบกับทรัพย์ NPA ของ ธอส. ส่วนลดสูงสุดถึงร้อยละ 50 จากราคาปกติ วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 มีประมูลทรัพย์จากกรมบังคับคดี วันที่ 5 และ 8 กรกฎาคม 2561 มีประมูลทรัพย์ของ ธอส.วันละ 250 รายการ มอบส่วนลดสูงสุดร้อยละ 60 จากราคาปกติ สำหรับภูมิภาค ธอส.ได้คัดทรัพย์จาก 61 จังหวัด กว่า 3,600 รายการ ออกประมูล ณ ที่ทำการสาขาเท่านั้น พิเศษผู้ซื้อทรัพย์ หรือผู้ที่ชนะการประมูลทรัพย์ NPA ธอส.รับสิทธิ์ผ่อนดาวน์ดอกเบี้ยร้อยละ 0 นานสูงสุด 60 เดือน (เฉพาะทรัพย์รายการที่ธนาคารกำหนด). – สำนักข่าวไทย