รร.มิราเคิลฯ 22 มิ.ย. – บีโอไอจับตาโรงงานรีไซเคิลพลาสติก หากลักลอบนำพลาสติกใช้แล้วจากต่างประเทศมารีไซเคิลจะถือว่าผิดเงื่อนไขขอรับส่งเสริมการลงทุนจะเพิกถอนสิทธิ์ทันที
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดสัมมนา “พลังขับเคลื่อน Smart SMEs :Your Success Begins” โดยระบุว่าปัจจุบันเอสเอ็มอีคิดเป็นร้อยละ 90 ของผู้ประกอบการในประเทศไทย จำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการเน้นสร้างนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนและก้าวสู่อุตสาหกรรมยุค 4.0 ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาผู้ประกอบการรายใหญ่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 33 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 23 โครงการ วงเงินลงทุน 1,100 ล้านบาท การเปลี่ยนเครื่องจักร 10 โครงการ ลงทุน 396 ล้านบาท
ส่วนการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนภาพรวม 3 เดือนแรกปีนี้มียอดรวม 205,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 160,000 ล้านบาท บีโอไอมั่นใจว่าผลจากการที่มี พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทำให้บรรยากาศการลงทุนในพื้นที่อีอีซีมีแนวโน้มดีขึ้นและตลอดปีนี้จะมีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 720,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายโชคดี กล่าวถึงโรงงานรีไซเคิลพลาสติกใช้ในประเทศ ว่า ขณะนี้มีโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอและได้รับส่งเสริมรวม 35 โครงการ กิจการประเภทนี้จะไม่สามารถนำเข้าพลาสติกจากต่างประเทศมาเป็นวัตถุดิบได้ บีโอไอจะถือว่าผิดเงื่อนไขและจับตากิจการนี้อย่างใกล้ชิด หากทำผิดจะยกเลิกส่งเสริมการลงทุนทันที
ส่วนกรณีบริษัทต่างประเทศบางรายลักลอบนำเข้าขยะอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ บริษัทดังกล่าวมีโครงการลงทุนอยู่แล้วหลายโครงการและมีโครงการใหม่ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนกิจการรีไซเคิลพลาสติกใช้แล้วในประเทศ แต่ยังไม่เริ่มดำเนินการ หากทำผิดเงื่อนไข บีโอไอก็จะเพิกถอนส่งเสริมการลงทุนทันที
“แต่ละปีมีผู้ยื่นโครงการรีไซเคิลพลาสติกใช้แล้วในประเทศประมาณ 1 ถึง 3 ราย หากรายใดลักลอบนำเข้าพลาสติกใช้แล้วจากต่างประเทศมารีไซเคิลจะถือว่าทำผิดเงื่อนไขจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ และถ้ามีเครื่องจักรที่ใช้มีอายุการใช้งานไม่ถึง 5 ปี ก็จะต้องชำระภาษีเครื่องจักรที่นำเข้ามาในจำนวนปีที่เหลือด้วย” นายโชคดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย