จ.นครปฐม11มิ.ย.- รอง ผอ.พศ.แถลงชี้แจงกรณี ผอ.พศ.มีหนังสือด่วน เพียงแค่ต้องการหาวัดตัวอย่าง ที่พระไม่จับเงิน และแนวทางปฏิบัติได้จริง เพื่อให้วัดที่ยังไม่ดำเนินการนำไปพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสม และปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยต่อไป
นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (รอง ผอ.พศ.) แถลงว่า ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีบันทึกข้อความที่ พศ.0001/06036 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 เรื่อง ขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัดนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีวัตถุประสงค์ เพื่อขอทราบแนวทางปฏิบัติได้จริง หลักการคือภิกษุสงฆ์มิต้องมาถือเงิน แต่ผ่านบัญชีส่วนกลาง เพื่อให้วัดที่ยังไม่ได้ดำเนินการนำไปพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวัดนั้นๆ และปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยต่อไป
รองผอ.พศ.แถลงต่อว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องการหาวัดตัวอย่าง ที่พระไม่จับเงิน ซึ่งเป็นไปตามพระวินัยปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้พระภิกษุรับใช้ให้คนอื่นรับ หรือแม้กระทั่งยินดีในเงินทองที่เขาเก็บไว้ให้ตน นอกจากนี้ยังรวมถึงอะไรก็ตาม ที่มีค่าในการแลกเปลี่ยน ซื้อขายได้ เช่น ธนบัตร เหรียญ เช็ค บัตรกดเงินสด บัตร ATM บัตรเครดิต การรับเงินทองจึงเป็นการผิดพระวินัยและเป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่พระภิกษุที่รับ ไม่ว่าจะโดยเหตุผลใดๆ เช่น การรับเพื่อตัวหรือเพื่อสงฆ์ก็ตาม
ส่วนกรณีคำสั่งด่วนดังกล่าวจะมีผลต่อการถวายปัจจัยของพุทธศาสนิกชนหรือไม่อย่างไร รวมถึงเรื่องนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาของมหาเถรสมาคม (มส.)นั้น รอง ผอ.พศ. ปฏิเสธตอบทุกประเด็น แจ้งเพียงว่ารายละเอียดได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ให้ยึดตามข้อความตามในหนังสือแถลงข่าวชี้แจง ซึ่งความหมายก็เป็นไปตาม หนังสือก่อนจะลุกออกจากห้องแถลงข่าวทันที
สำหรับการประชุมมส.วันนี้(11มิ.ย.)มีมติรับทราบการแต่งตั้งพระชั้นผู้ใหญ่เจ้าคณะหลายจังหวัด ซึ่ง1ในมติ มส.รับทราบคำสั่งเจ้าคณะภาค1แต่งตั้งพระเทพรัตนมุนี (สุรชัย สุรชโย) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค12 ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แทนอดีตพระพรหมสิทธิ ที่ถูกถอดสมณศักดิ์กรณีกระทำการทุจริตและถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เงินทอนวัด .-สำนักข่าวไทย