5 มิ.ย. – ราคาน้ำมันแพงขึ้นมาทีไร มักจะมีผู้เสนอแนวทางแก้ปัญหาหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดมีการตั้งข้อสังเกตว่าโรงกลั่นน้ำมันมีกำไรสูง และส่งออกน้ำมันราคาต่ำกว่าที่ขายในประเทศ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยไปพูดคุยกับ 2 ใน 6 โรงกลั่นของไทย ให้ข้อมูลเรื่องนี้
มักมีการเปรียบเทียบระหว่างโรงกลั่นน้ำมันไทยและสิงคโปร์ ว่าทำไมสูตรราคาของไทยต้องอิงราคาสิงคโปร์ และทำไมเมื่ออิงแล้วโรงกลั่นของไทยต้องบวกค่าใช้จ่ายเทียบเท่าการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจากสิงคโปร์
ผู้บริหาร 2 โรงกลั่น ใน 6 โรงกลั่นของไทย อธิบายง่ายๆ ว่าโรงกลั่นของไทยเกิดขึ้นเพื่อความมั่นคงของประเทศเป็นปัจจัยหลัก คือ ผลิตเพื่อใช้ในประเทศไทย ไม่ใช่ผลิตเพื่อการส่งออกเช่นสิงคโปร์ที่มีกำลังกลั่นแต่ละโรงสูงมาก ต้นทุนโรงกลั่นไทยยังสูงกว่าจากเหตุผลอื่นๆ เช่น สำรองน้ำมัน และการขนส่งที่ไกลกว่า
แต่หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันขายปลีกไทยและสิงคโปร์แล้ว แม้โรงกลั่นสิงคโปร์ จะได้เปรียบกว่าราคาขายปลีกกลับสูงกว่าไทย เพราะมีกลไกลด้านภาษีและส่วนประกอบอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ปัจจุบันกำลังกลั่นของไทยมีกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ความต้องการใช้ไม่ถึง 900,000 บาร์เรล ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออก ซึ่งขายในราคาต่ำกว่าราคาขายในประเทศ เป็นเพราะว่าน้ำมันเหล่านี้ตกเกรดมาตรฐานของไทยที่อยู่ระดัยสูงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี
สูตรราคาหน้าโรงกลั่นของไทย ทางกระทรวงพลังงงานได้ปรับล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ปรับมาเป็นการอ้างอิงน้ำมันมาตรฐานยุโรประดับ 4 บวกค่าใช้จ่าย เทียบเท่าการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจากสิงคโปร์ ตัดลดค่าปรับคุณภาพน้ำมันก็ลดลงไปได้ 2 ดอลลาร์/บาร์เรล และล่าสุดกำลังพิจารณาการลดสำรองน้ำมันดิบลงอีก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาหน้าปั๊มถูกลง. – สำนักข่าวไทย