กทม.ถก 5 จังหวัดปริมณฑล รับมือฤดูฝน

กทม. 5 มิ.ย.- กทม.ร่วม 5 จังหวัดปริมณฑล ประชุมบริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน เฝ้าระวังพื้นที่รอยต่อ และจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 


นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้แทนจาก 5 จังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย นครปฐม ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยช่วงฤดูฝนปี 2561 หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 


พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดปริมณฑล เน้นทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 4 จุดหลัก คือ ถ.พหลโยธิน บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ถึงบริเวณแยกลําลูกกา, ถ.แจ้งวัฒนะ จากคลองประปา ถึงศูนย์ราชการฯ, ถ.งามวงศ์วาน บริเวณซอยชินเขต 2 ถึงคลองประปา และ ถ.สุขุมวิท บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ซอยลาซาล-แบริ่ง โดยประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด


พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กทม.เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำไว้ 9 ด้าน คือ 1.ทําความสะอาดท่อระบายน้ำในถนน ตรอก ซอย ความยาวรวม 3,297 กิโลเมตร 2.เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืชในคูคลอง ยาว 1,341 กิโลเมตร 3.เตรียมความพร้อมสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำ จํานวน 698 แห่ง รวมกําลังสูบ 2,229 ลูกบาศก์เมตร/วินาที 4.ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่เฝ้าระวัง 482 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และติดตั้งเรือผลักดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลอง จํานวน 60 ลํา 

5.เตรียมความพร้อมของอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง กำลังสูบ 195 ลูกบาศก์เมตร/วินาที 6.ลดระดับน้ำในคลองและแก้มลิง จํานวน 26 แห่ง 7.เตรียมกระสอบทราย 2.79 ล้านใบ รวมทั้งรถเครื่องกําเนิดไฟฟ้า 18 คัน เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 8.เตรียมหน่วย BEST จัดเจ้าหน้าที่ประจําจุด 700 คน และ 9.เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน พร้อมรับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาน้ำท่วมขังได้ทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง