กทม. 31 พ.ค. – สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลจากชุดสืบสวนคดีเงินทอนวัดลอตที่ 3 พบว่า “อดีตพระพรหมสิทธิ” ที่ถูกฝากขังไปเมื่อวานนี้ ได้ร่วมกับผู้ต้องหาและอดีต ผอ.พศ. กระทำผิด โอนเงินจากบัญชีมากถึง 32 ครั้ง
ข้อมูลจากคำร้องฝากขัง “อดีตพระพรหมสิทธิ” ของพนักงานสอบสวนกองปราบฯ สรุปพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่า ได้ร่วมกับนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมพวก ได้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโครงการ 2 บัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งสาขาวงเวียนโอเดียน รวมทั้งหมด 32 ครั้ง ให้กับฆราวาสที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับโครงการ
ข้อมูลจากชุดสืบสวนระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานที่คาดว่ามีส่วนรู้เห็นอีก 20 ปาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน และพบว่าอาจมีการโอนเงินไปยังพระวัดลูกชื่อดังแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ราชบุรี ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช แต่อยู่ระหว่างขยายผล
เจาะลึกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับทุจริตเงินทอนวัด เฉพาะที่วัดสระเกศฯ จากข้อมูลพบว่า ในปี 2557 วัดสระเกศฯ ได้รับงบสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรม จำนวนเงิน 10 ล้านบาท และ งบเผยแผ่พระพุทธศาสนา จำนวน 69.7 ล้านบาท โดยในงบเผยแผ่ฯ 69.7 ล้านบาท เป็นการรับโอนจากสำนักพุทธฯ 2 ครั้ง แบ่งเป็นลอตแรก 32 ล้านบาท และลอตหลัง 37 ล้านบาท โดยในลอตแรก 32 ล้านบาท มีการโอนเงินออกจากบัญชี 30 ล้านบาท ให้กับคนใกล้ชิดของ “อดีตพระพรหมสิทธิ” จากนั้นก็ถูกโอนกลับเข้าบัญชีของ “อดีตพระพรหมสิทธิ” โดยไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายในโครงการ
ส่วนลอตหลัง 37 ล้านบาท ได้มีการโอนออกจากบัญชีโครงการฯ ไปยังวัดต่างๆ หลายแห่งเป็นเงินประมาณ 8 ล้านบาท ก่อนถูกทอนคืนวัดสระเกศฯ 29.2 ล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าได้ส่งคืนให้สำนักพุทธฯ หรือมีการโอนไปยังผู้ใดหรือไม่
ขณะที่การทุจริตเงินทอนวัดที่ตรวจพบของวัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศารามฯ เบื้องต้นพบว่าได้รับงบประมาณอุดหนุนวัดแห่งละ 5 ล้านบาท จากนั้นมีการโอนเงินไปยังบัญชีฆราวาสรวมทั้งหมด 9 บัญชี. – สำนักข่าวไทย