อุดรธานี 27 พ.ค. – เจ้าหน้าที่สนธิกำลังติดตาม “ไอ้งาเดียว” ช้างพลายที่บาดเจ็บเรื้อรัง ก่อนช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ คาดเกิดจากการต่อสู้กันของช้างป่าเพื่อแย่งเป็นจ่าฝูง
เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าปฏิบัติการติดตามช้างป่าบาดเจ็บ โดยเป็นช้างพลายงาเดียว ซึ่งได้ออกติดตามดูแลตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุดติดตามแกะรอย, ชุดยิงยาซึม และชุดทีมสัตวแพทย์เข้าดูแลเพื่อปฏิบัติการ ซึ่งชุดติดตามฯ สามารถแกะรอยและพบช้างป่าตัวดังกล่าวที่บาดเจ็บ จากนั้นชุดยิงยาซึมจึงเข้าพื้นที่ ก่อนดำเนินการยิงยาซึมเข้าเป้าหมาย 1 เข็ม จนง่วงซึม จากนั้นทีมสัตวแพทย์ได้ใช้เวลารักษาบาดแผล 3 จุด ทั้งที่บริเวณโคนหาง, สะโพกขวา และข้อเท้า พร้อมให้น้ำเกลือ รวมถึงยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เมื่อช้างตัวดังกล่าวหายซึมและเดินกลับเข้าไปภายในป่า เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังไป ใช้เวลาปฏิบัติการรวม 5 ชั่วโมง แต่มีการส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ
สำหรับอาการบาดเจ็บของ “ไอ้งาเดียว” เบื้องต้นสัตวแพทย์ลงความเห็นว่ามาจากการต่อสู้กันเองของช้างป่า เพื่อแย่งกันเป็นจ่าฝูง โดยระดับอาการบาดเจ็บอยู่ที่ปานกลางถึงหนัก แต่หลังมีการรักษาตัว ช้างก็สามารถฟื้นตัวได้ดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามอาการของช้างอยู่อย่างห่างๆ เพราะยาฆ่าเชื้อจะมีฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 15 วัน
สัตวแพทย์หญิงสุดากานต์ แก้วโชติ สัตวแพทย์ชำนาญการหัวหน้าทีมแพทย์ กล่าวว่า อาการบาดเจ็บของช้างอยู่ในระดับปานกลางถึงหนัก โดยจุดที่น่าเป็นห่วง คือ แผลที่ข้อเข่าด้านขวา ซึ่งทำให้ช้างเดินขาลากและแผลบริเวณโคนหาง ซึ่งแรงกระแทกตรงโคนหางอาจจะเป็นไปได้ที่จะทำให้ช่วงเชิงกรานมีปัญหา หลังจากนี้การฟื้นตัวของช้างจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย .- สำนักข่าวไทย