เร่งปลดล็อกปัญหา IFEC

นนทบุรี  9 พ.ค. – กรมพัฒน์ฯ เผยกฤษฎีการับทราบปัญหา IFEC หลัง 3 หน่วยงานเข้าชี้แจงประเด็นข้อขัดข้องทางกฎหมาย เบื้องต้นใช้ 2 แนวทางปลดล็อก พร้อมเตรียมกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม สร้างบรรทัดฐานตลาดทุนไทย


นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่  8 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เข้าชี้แจงข้อขัดข้องทางกฎหมายบริษัทมหาชนจำกัดกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) โดยมี IFEC เป็นตัวอย่างที่หยิบยกขึ้นมาพิจารณา เพื่อหาทางออกแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

นางกุลณี  กล่าวว่า เบื้องต้นแนวทางการแก้ปัญหาอาจดำเนินการได้ 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ 1 ใช้มาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 เป็นข้อปลดล็อกให้ผู้ถือหุ้นสามารถเรียกประชุมผู้ถือหุ้น โดยการนำมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาใช้ในการดำเนินการจัดประชุม ควรคำนึงถึงความเป็นผู้ถือหุ้นมีครบจำนวน 10% โดยดูได้จากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น (มาตรา 61) หรือใบหุ้น (มาตรา 58) กำหนดเรื่องที่ร้องขอให้ที่ประชุมพิจารณา และผู้ถือหุ้นสามารถดำเนินการจัดประชุมได้ โดยคณะกรรมการต้องอำนวยความสะดวกตามสมควร เป็นต้น ส่วนแนวทางที่ 2 การประชุมผู้ถือหุ้นที่เรียกโดยคณะกรรมการที่มีประเด็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่ได้ขอหารือกับ สคก. ขณะนี้ สคก.ได้รับทราบรายละเอียดข้อขัดข้องทางกฎหมายทั้งหมดแล้ว และอยู่ขั้นตอนการพิจารณาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้น ซึ่ง สคก.จะเร่งพิจารณาข้อวินิจฉัยดังกล่าวให้ และคาดว่าจะตอบกลับกรมฯ เร็ว ๆ นี้  


ทั้งนี้ หลังจาก สคก.มีผลการพิจารณาและส่งกลับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว กรมฯ จะรีบแจ้งให้แก่  ก.ล.ต. และ ตลท.ทราบ และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนเร่งดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ถือหุ้นรายย่อย ผู้ถือหุ้นกู้ และให้หุ้นของ IFEC สามารถกลับมาซื้อ-ขายได้อีกครั้ง ซึ่งกรณีของ IFEC นี้ ถือว่าเป็นกรณีศึกษาสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่ตลาดทุนของไทย รวมถึงผลการพิจารณาของ สคก. จะสามารถฟื้นความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้กลับมาอีกครั้ง        

นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมเดินหน้ากำหนดแนวทางปฏิบัติการจัดประชุมของคณะกรรมการบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อให้สอดคล้องกับผลการพิจารณาของ สคก.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง