จี้ กทม.แก้ตู้น้ำหยอดเหรียญเถื่อน

ศาลาว่าการกทม. 30เม.ย.-เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค จี้ กทม.แก้ตู้น้ำหยอดเหรียญเถื่อนหลังพบไม่ได้มาตรฐานกว่าร้อยละ 91 


เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร รวมตัวกันบริเวณหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมถือป้ายที่ระบุภาพและข้อความที่สื่อความหมายถึงความไม่ปลอดภัยของตู้น้ำหยอดเหรียญ เพื่อเรียกร้องให้ กทม.แก้ไขปัญหาตู้น้ำหยอดเหรียญเถื่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังเคยเรียกร้องไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นางสาวมลฤดี โพธิ์อินท์ นักวิชาการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวว่า เมื่อปี 58 คณะกรรมการองค์การอิสระการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน(คอบช.) ร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สุ่มตรวจตู้น้ำหยอดเหรียญในพื้นที่ กทม. 18 เขต  855 ตู้ พบว่า เป็นตู้น้ำหยอดเหรียญเถื่อนไม่มีการขออนุญาต ไม่ได้มาตรฐานกว่าร้อยละ 91.76  สถานที่ตั้งไม่เหมาะสม อยู่ใกล้ฝุ่น กว่าร้อยละ 76.3 และตั้งอยู่ริมถนน ริมทางเท้า ใกล้แหล่งระบายน้ำเสีย น้ำขัง ร้อยละ 28.3 ใกล้ที่ทิ้งขยะทำให้มีแมลงสาบ หนูและแมลงวันร้อยละ 22  เป็นต้น  ซึ่งเมื่อปี 60 ก็ได้สำรวจกลับพบว่า ได้ผลไม่ต่างกัน ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อน ทางเครือข่ายฯได้เรียกร้องให้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด วันนี้ (30 เม.ย.)ซึ่งตรงกับวันสิทธิผู้บริโภคไทย เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร จึงรวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเรียกร้องให้เห็นความสำคัญของความปลอดภัยของผู้ใช้บริการตู้น้ำหยอดเหรียญและรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว


นางชนัญชิดา ตัณฑะผลิน เครือข่ายผู้บริโภค กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้อง ที่ทางเครือข่ายเสนอเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาสำหรับ กทม. มีดังนี้ คือ กทม.ต้องสั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ยกเลิกตู้น้ำหยอดเหรียญเถื่อนและบังคับใช้กฎหมายให้ผู้ประกอบการต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการตู้น้ำหยอดเหรียญ และต้องติดตามตรวจสอบตู้น้ำหยอดเหรียญที่ติดตั้ง ว่าได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่ มีคุณภาพของตู้มากน้อยเพียงใด มีสารอันตรายใดปนเปื้อนบ้าง  และนำข้อมูลผลการทดสอบคุณภาพน้ำ มาเปิดเผยให้ผู้บริโภคได้ทราบ พร้อมทั้งทำสติ๊กเกอร์วันเดือนปีที่ผลิตไส้กรอง และวันเดือนปีที่ตรวจคุณภาพน้ำให้เจ้าของตู้ติดไว้บนหน้าตู้ด้วย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง