พิจิตร 25 เม.ย.-ผู้การฯ พิจิตร สั่งย้าย 2 นายตำรวจ เรียกรับเงินยายวัย 70 ปี แลกกับการนำรถของกลางออกไป ส่วนตำรวจอีก 6 นายรอดพ้นจากความผิด เหตุไม่ได้ร่วมจับกุมและถูกปลอมลายมือชื่อในบันทึกจับกุม
พลตำรวจตรีธวัชชัย มวลนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ลงนามในคำสั่งย้าย ร้อยตำรวจเอกสุริยา ชารีวัตร รองสารวัตรงานป้องกันและปราบปราม สภ.สากเหล็ก และดาบตำรวจมงคล หมีเปลี่ยน หลังการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบมูลความผิดตามที่ถูกร้องกรณีเรียกรับเงินจำนวน 30,000 บาท จากนางเจี้ยว อุปปัจฉา อายุ 70 ปี เพื่อแลกกับการไม่ยึดรถจักรยานยนต์ของกลางในคดีขับขี่และเสพสารเสพติดของบุตรชาย และยังข่มขู่ว่า หากไม่นำเงินมาจ่ายจะดำเนินคดีร่วมกับบุตรชายด้วย โดยให้ตำรวจทั้ง 2 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากมีความผิดจะดำเนินการ ทั้งวินัยและคดีความตามกฎหมาย ให้มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร โดยขาดจากตำแหน่งเดิมในต้นสังกัด เพื่อไม่ให้ไปข่มขู่ผู้เสียหายหรือยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน พร้อมกับตั้งคณะกรรมการที่มีรองผู้บังคับการ เป็นประธานขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 6 นาย ที่ถูกกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ รอดพ้นและไม่ต้องรับโทษทางวินัยและอาญา เนื่องจากตรวจสอบพบว่าในวันเกิดเหตุไม่ได้ร่วมกัน จับกุมบุตรชายและตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของคุณยายแต่อย่างใด แต่นายตำรวจทั้งสองนาย ได้ใช้กลวิธีปลอมลายมือชื่อนายตำรวจทั้ง 6 นายในบันทึกจับกุมแทน
อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สั่งปรับยุทธวิธีการตั้งด่านตรวจค้น จับกุมผู้กระทำความผิดในคดีต่างๆ ทุกครั้งที่มีการตั้งด่านต้องมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับสารวัตรหรือรองสารวัตร ควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการตรวจค้นต้องปฏิบัติด้วยมารยาทที่มีความสุภาพเรียบร้อย หากพื้นที่ สภ.ใดฝ่าฝืนคำสั่งต้องระวังการถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย