กรุงเทพฯ 9 เม.ย.- นักเรียน นักศึกษาทั้งในกรุงเทพฯและภูเก็ต รวมตัวร้องกองปราบ ให้ช่วยติดตามท้าวแขร์ที่หลอกลวงให้ร่วมลงทุน โดยเสนอดอกเบี้ยสูง สุดท้ายหายตัวอย่างไร้ร่องรอ
น.ส.ธัญญา ธาราพิศาลสิทธิ อายุ 22 ปี นักศึกษา ย่านศาลายา พร้อมเพื่อนนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายใน จ.ภูเก็ต เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับพนักงานสอบสวนกองปราบ ให้ช่วยติดตามตัวท้าวแชร์ซึ่งเป็นผู้หญิง หลังหลอกให้พวกตนซึ่งเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษาร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ โดยให้ดอกเบี้ย 1 เท่าตัว ในระยะเวลา 15 วัน แต่หลังลงทุนไปได้เพียงสองเดือน ผลประโยชน์และเงินต้นที่ลงไปกับหายสาบสูป มีเหยื่อใน จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ตกเป็นเหยื่อเกือบ 200 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท
น.ส.ธัญญา เล่าว่า รู้จักเท้าแชร์รายนี้เพราะเป็นเพื่อนกับพี่สาวและเป็นลูกค้าครีมบำรุงผิวที่ตนจำหน่ายอยู่ หลังรู้จักกันไม่นานก็ชักชวนให้ร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ที่ 1,000 บาท โดยจะได้ดอกเบี้ย 1เท่าตัวคือ 1,000 บาทในระยะเวลา 15 วัน ซึ่งตนก็ลองนำเงินเก็บที่ไว้จ่ายค่าเทอมลงทุนครั้งแรก 3,500 บาท ปรากฎว่าเมื่อครบ 15 วัน ได้ดอกเบี้ย 7,000 บาท เมื่อเห็นว่าได้เงินจริงจึงลงทุนต่ออย่างนี้เรื่อยมา จนเงินต้นอยู่ที่ 20,000 บาท หลังจากนั้นท้าวแชร์ให้ตนเองไปชักชวนบุคคลอื่นมาร่วมลงทุน โดยจะให้ค่าชักชวน ร้อยละ 20 เมื่อเห็นว่าได้เงินค่าตอบแทนจริง จึงชักชวนเพื่อนและญาติพี่น้องประมาณ 30 คนมาลงทุน และมีการชักชวนกันต่อไปเป็นทอดๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายใน จ.ภูเก็ต 130 คน และเป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่มผู้ปกครองกว่า 50 คน
นักเรียนอีก1รายใน จ.ภูเก็ต ระบุว่า ตนนำเงินเก็บในบัญชีธนาคาร 1,000 บาท มาร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ เพื่อหวังนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายเรื่องส่วนตัวเพราะไม่ต้องการเพิ่มภาระให้พ่อแม่ หลังจากได้เงินค่าตอบแทนครั้งแรกรู้สึกดีใจมาก จึงนำสร้อยทองไปจำนำ เอาเงินมาเพิ่มทุนเงินต้น จนทุกวันนี้เงินต้นอยู่ที่ 50,000 บาท โดยเริ่มลงทุนครั้งแรกเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2561 จากนั้นท้าวแชร์ก็หยุดจ่ายเงินเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงพยายามติดต่อสอบถามแต่ถูกบ่ายเบี่ยงและขอประนอมหนี้โดยขอจ่ายแค่เงินต้น ส่วนดอกเบี้ยขอไม่จ่าย อีกทั้งยังข่มขู่ว่าหากนำเรื่องไปแจ้งความ ก็จะแจ้งความกลับฐานหมิ่นประมาทและให้การเท็จ
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคน ยืนยัน พวกตนกว่า 130 คนกำลังเดือดร้อนหนัก เพราะเงินที่ลงทุนเป็นเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงเป็ฯค่าเล่าเรียน บางคนเป็นเงินที่พ่อแม่ให้มาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างวัน แต่นำมาลงทุนส่วนนี้หมด วอนท้าวแชร์เห็นใจและนำเงินมาคืนและหยุดพฤติกรรมหลอกหลวงดังกล่าว
ด้านพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองปราบปราม อยู่ระหว่างสอบปากคำนักเรียน นักศึกษา ก่อนพิจารณารับเป็นคดีหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย