เสียมราฐ 5 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีเสนอที่ประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ ให้ประเทศสมาชิกร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำ และสนับสนุนประเทศสมาชิกบริหารจัดการความเสี่ยงของภัยพิบัติจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วมและคุณภาพน้ำอย่างเป็นระบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ ณ ห้องบอลรูม 1 สกขารีสอร์ท แอนด์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ (Sokha Siem Reap Resort & Convention Center)
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ ว่า การประชุมครั้งนี้ มี 2 หัวข้อ คือ 1.การเสริมสร้างการดำเนินการตามข้อตกลงแม่โขง ปี 2538 (Strengthening the Implementation of the 1995 Mekong Agreement) และ 2.บทบาทของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในโครงสร้างสถาปัตยกรรมความร่วมมือภูมิภาค (The Role of MRC in the Regional Cooperation Architecture)
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามพันธกรณีของความตกลงฯ พ.ศ. 2538 และกรอบความร่วมมือคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงอย่างเป็นรูปธรรม โดยดำเนินความร่วมมือในทุกด้านของการพัฒนาที่ยั่งยืน การใช้ การบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของลุ่มแม่น้ำโขง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เสนอผู้นำประเทศสมาชิกให้ร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งของการแลกเปลี่ยนข้อมูลน้ำ ซึ่งครอบคลุมการรักษาปริมาณและคุณภาพน้ำ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชนริมฝั่งโขง และควรมุ่งเน้นสนับสนุนประเทศสมาชิกในการบริหารจัดการความเสี่ยงของภัยพิบัติจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วมและคุณภาพน้ำอย่างเป็นระบบ ด้วยเทคนิควิชาการจากฐานข้อมูล ข้อสารสนเทศและองค์ความรู้ที่ผสานมุมมองเชิงลุ่มน้ำอย่างครอบคลุม รัฐบาลไทยยินดีสนับสนุนการเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำของประเทศสมาชิก เพื่อตอบสนองการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามเงื่อนไขการพัฒนาของแต่ละประเทศ
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับการกำหนดบทบาทของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในโครงสร้างสถาปัตยกรรมความร่วมมือภูมิภาค นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ซึ่งรัฐบาลไทย กัมพูชา ลาวและเวียดนาม ได้จัดตั้งเมื่อปี 2538 และหวังว่า คณะกรรมาธิการฯ จะมีการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศสมาชิก ในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบต่อภัยพิบัติด้านน้ำแล้ง น้ำท่วม คุณภาพน้ำ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการกำหนดแผนงานและเป้าหมายที่มีกรอบระยะเวลาชัดเจนร่วมกัน .- สำนักข่าวไทย