fbpx

มธ.จัดเสวนา ตีแผ่เงินสงเคราะห์

ท่าพระจันทร์4เม.ย.-นักวิชาการ มธ.เสวนา “ตีแผ่เงินสงเคราะห์” ถกปัญหากรณีทุจริตเงินคนจน ชี้ระบบโครงสร้างเป็นปัญหา แนะรัฐกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเวทีเสวนาธรรมศาสตร์สู่สังคมครั้งที่ 2 หัวข้อ ตีแผ่ “เงินสงเคราะห์” เรามาถูกทางหรือไม่ ในการช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ระดมนักวิชาการด้านสังคมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ เพื่อวิเคราะห์หาแนวทางป้องกันการทุจริตเงินสงเคราะห์


นายโกวิทย์ พวงงาม คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาผู้ด้อยโอกาสหรือคนไร้ที่พึ่งเป็นความเหลื่อมล้ำในสังคมที่ภาครัฐ จำเป็น ต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างความเท่าเทียมกัน ซึ่งมีมากกว่า 10 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคน ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษ โดยแบ่งเป็น ผู้พิการ 2 ล้านคน คนไร้ที่อยู่อาศัย 1 แสนคน ผู้ยากจนไร้ที่ดินทำกินกว่า 5 ล้านคน  และผู้สูงอายุอีกกว่า 12 ล้านคน จึงทำให้มีโครงการรัฐสวัสดิการในรูปแบบต่างๆ จนกลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตเงินคนจน


นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลไกในการให้ความช่วยเหลือมีความบกพร่อง ไม่มีความละเอียดรอบคอบ เป็นเพราะระบบโครงสร้างการบริหารที่ “รวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง” ควร “กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น” เพื่อทราบปัญหาของคนจนอย่างแท้จริง ดังนั้นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ ต้องปฏิรูประบบโครงสร้างการบริหารใหม่ ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลคนด้อยโอกาส เพราะเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับคนจนมากที่สุด และมีกลไกตรวจสอบความโปร่งใสที่ชัดเจน นอกจากนี้รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ให้ความช่วยเหลืออย่างยั่งยืน ไม่ใช่นโยบายที่ฉาบฉวย สิ้นเปลืองงบประมาณหลายพันล้านบาท

ทางด้าน นายอานนท์ มาเม้า อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 76 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนสงเคราะห์เงินผู้ยากไร้ แต่ในความเป็นจริงประชาชนในท้องถิ่นกลับไม่ทราบถึง “สิทธิที่ตนพึงได้รับ” ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความบกพร่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจกับผู้ยากไร้ จึงทำให้เกิดการทุจริตขึ้นได้ ซึ่งนอกจากการปฏิรูปโครงสร้างระบบแล้ว ประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งเบาะแสการทุจริต ซึ่งผู้เข้าแจ้งเบาะแสต้องได้รับสิทธิของกฎหมายการคุ้มครองพยานได้ทันที เพื่อความปลอดภัยจากอำนาจมืด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย